หลังจากที่แวดวงหมอลำสูญเสีย บิดาหลอด สามีของ แม่ นกน้อย อุไรพร ผู้จัดตั้งวงดนตรีหมอลำโด่งดังเสียงอิสาน ในวัย 71 ปี ช่วงวันที่ 12 ม.ย. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในบ้านโคนงห้า บ้านพักเสียงอิสาน จังหวัดอุดรธานี ภายหลังป่วยหลายโรครุมเร้า
ปัจจุบัน “แม่นกน้อย” ได้ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับผู้ดำเนินรายการตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงการสูญเสียครั้งนี้ของคณะเสียงอิสาน และวงจะไปต่อยังยังไง เดินหน้าหรือต้องหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ในวันที่ไม่มีเสาหลักแล้ว
เมื่อสูญเสียเสาหลัก วงจะยังไปต่อยังไง?
เดี๋ยวนี้วงยังเดินอยู่ ถ้าพวกเรามีภารกิจพิเศษทราบว่าจะดูแลที่วง ซึ่งเราก็กลับมาเล่นคอนเสิร์ตดังเดิม ในความรู้สึกของพวกเราภายหลังที่ห่างหายไปแวะเวียนเยี่ยมคุณพ่อ ซึ่งบางคอนเสิร์ตก็มิได้ไป ยังไม่เคยชินกับพวกเราแต่ของผู้ชมที่ดูเรา แต่พวกเราก็รู้ว่าแววตาของเขาด้วยพลังเลื่อมใสที่มองดูเรา ทุกคนก็เข้ามาให้กำลังใจหลังจากที่ออกไปหน้าเวที เราก็รู้สึกเวิ้งว้างมากในวันที่ไม่มีคุณพ่อ
อยู่ด้วยกันมากี่ปี?
ตลอด 48 ปีที่อยู่ด้วยกันมาก็เท่าอายุวงเสียงอิสาน
ป๊ะป๋าป่วยหนักเป็นอะไร?
ก็ไม่สบายตามที่พวกเราเห็นตามข่าวสาร เป็นมาเป็นเวลายาวนานมาก และก็ล่าสุดโรคเบาหวานความดัน ซึ่งก็ดูแลตัวเองหาแพทย์ดังที่คุณหมอนัด แต่ว่าบิดาดื้อรั้นเพราะเหตุว่าหมอนัดไม่ค่อยจะไป แต่ว่ายาที่แพทย์ให้มาเค้าก็จะแอบซ่อนไว้และก็ซื้อรับประทานเอง ไม่ยินยอมไปให้หมอตรวจ แม้กระนั้นพอเพียงยาหมดก็เอายาตัวอย่างไปซื้อมากินเอง โดยไม่มีกลับไปเช็กสุขภาพตัวเองว่าความดันเป็นอย่างไร เบาหวานเป็นยังไง วันนั้นอาการที่เขาเป็นพวกเราเริ่มจิตตกไม่ไหว แล้วคือท้องร่วงอย่างแรงไม่หาย แต่ว่าเขาก็ใจแข็งไม่อยากไปหา เราก็ติดต่อทางโรงพยาบาลให้รถโรงพยาบาลมารับเค้าเลย แต่ว่าท่านก็ยังซุกซนไม่ยินยอมไปแบบไม่มีแรง เค้าก็ยังกล่าวว่าคนไหนกันแน่สั่ง ผมไม่ไปนะบิดาไม่ไปนะ ยังมาว่าแม่อีกเป็นเค้าใจแข็งสุดๆซึ่งแผลที่เท้าเนื้อก็เริ่มดำขึ้นมาเรื่อยแล้วก็สังเกตว่ามันแตกต่างจากปกติ เขาก็ยังมาบอกว่าตัดก็ตัดที่บ้านได้ เป็นไม่อยากไปโรงหมอ
ท่านได้บอกอะไรไหม?
คือท่านติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อโรคในปอด ตอน 3 วันก่อนจากไปก็ยังคุยกันได้ ก็ยังรู้เรื่อง จะอ้อนพวกเราตลอดไม่ต้องการให้เราไปการแสดงดนตรี
ตลอด 48 ปี เริ่มต้นไปพบกันได้ยังไง?
คราวก่อนท่านคือโฆษกรวมทั้งเราเป็นนักร้องก็ได้ทำงานร่วมกัน พวกเราก็มาจากจังหวัดศรีสะเกษมาตัวคนเดียว ด้วยคำสบประมาทว่าเราจะไปได้ซักกี่น้ำ ซึ่งป๊ะป๋าก็กล่าวว่าช่างเถอะสักครู่ผมจะดูแลดูใจกันมา ซึ่งมาเป็นคณะเสียงอิสานตอนต้นก็ตั้งเป็นวงดนตรีของ นกน้อย อุไรพร ซึ่งเราก็มาเปลี่ยนแปลงตั้งวงหมอลำเล่นยันแจ้งเลย ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อก็วางหมากให้พวกเรา แล้วพวกเราจำเป็นต้องเดินตามมาของเขา ด้วยเหตุว่าเราก็ทำอะไรไม่เป็นเลยเราจำเป็นต้องฝึกหัดรำ เพื่อจะได้เป็นตัวเอกของวงเราถึงจะสามารถปกครองคนอื่นๆได้ รวมทั้งการดำเนินชีวิตก็ซวดเซตลอด กระทั่งม่าม้าของเรามาเยี่ยมท่านก็กล่าวว่าจ่ายยังไงหากไม่รอดจะเอาลูกของเรากลับไปอยู่บ้านแล้วนะ ซึ่งป๊ะป๋าก็บอกว่าผมต้องการมีทุนสักตั้งหนึ่ง รวมทั้งในตอนนั้นเอานาไปเข้าธนาคารรวมทั้งได้มา 300,000 ได้มาเป็นทุนสำหรับเพื่อการสร้างภาควิชาเสียงอิสาน ซึ่งมีเสียงตอบรับที่ดี แม้กระนั้นอุปสรรคก็เยอะแยะเหมือนกัน เนื่องจากเราเป็นหัวหน้าสตรี เซนส์ก็มีทุกทีมบางคนที่ไม่เปิดใจสารภาพเราเนื่องจากว่าพวกเราเป็นสตรี บางบุคคลเป็นเค้าไม่เอาเลยซึ่งป๋าก็ไม่ยุ่งเค้าก็บอกให้พวกเราเคลียร์เอง ถ้าคุณมีเข้มแข็งควรจะทำลงได้อย่างไร ซึ่งพวกเราก็แบ่งภาระหน้าที่กันเลย
แต่ก็พิสูจน์ตัวเองทำให้เสียงอิสานเป็นตำนานได้?
ที่คุณพ่อไม่ยินยอมขึ้นเวที เพราะเหตุว่าเค้าเป็นคนขี้อายมากเค้าเกลียดชังออกสื่อแม้กระนั้นอาจจะมีบ้าง ซึ่งวันไหนที่ลูกในทีมมีปัญหา เขาก็ออกไปหน้าเวทีเพื่อเซอร์ไพรส์สำหรับในการจัดการกับปัญหา ซึ่งวันไหนที่บิดาขึ้นคือเป็นภาพที่หาดูยากมาก เด็กทุกคนก็จะกลัวป๊ะป๋าเนื่องจากเขาเป็นคนเสียงดัง
วันนี้ที่ไม่มีพ่อแล้วพวกเรารู้สึกยังไง?
ก็มีความรู้สึกว่าเคว้งคว้างมาก และไม่ต้องการใช้คำว่าพลาดเลย เพราะเหตุว่าพ่อไม่ต้องการรักษาตัวเอง ด้วยเหตุว่าท่านกลัวเป็นภาระของแม่ ซึ่งพวกเราก็ไปบนที่แห่งไหนก็ได้ให้คุณบิดากลับมาแข็งแรงได้ แม้กระนั้นการที่จะบนบานศาลกล่าวเขาต้องทำรักษาเช่นเดียวกัน พอเพียงเข้าวันที่ 5 เมษายน เขาก็ขอพวกเราว่าเสียงอิสานไม่มี นกน้อย อุไรพร ไม่ได้นะ จะต้องมี ซึ่งเขาก็กำชับให้เราไม่ให้ทิ้งวงเสียงอิสาน รวมทั้งจะต้องสานต่อให้ได้ด้วยหัวใจที่แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆทุกๆวันๆ.
ข่าวบันเทิง
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://freelydays.com/13913/ [pr]
Tags :
นกน้อย อุไรพร [pr]
