แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - luktan1479

หน้า: 1 ... 545 546 [547] 548 549 ... 556
8191
ภาวะตลาดน้ำมัน [pr]น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $4.13 กังวลสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 95 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรธนาคารรัสเซียจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.13 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 8.6%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.06 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 100.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 และตลอดเดือนก.พ. สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 10.7%

รัสเซียกำลังเผชิญกับภาวะติดขัดด้านการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทุกประเภท ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงธัญพืช หลังจากสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT นอกจากนี้ สหรัฐได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย

คณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนได้จัดการเจรจาโดยตรงเมื่อวานนี้เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันได้ ส่วนการเจรจารอบต่อไปจะมีขึ้นที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 2 มี.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนเม.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.

8192
ครัวบ้านยาย วัดถ้ำสนุก บ้านนา ชุมพร อาหารตามสั่งและเครื่องดื่มชา-กาแฟ-กาแฟสด  โทร/ไลน์ 0867348650

8193
Green Curmin ปัญหากรดไหลย้อนช่วยได้ นวัตกรรมไทย ชนะรางวัลเหรียญทองระดับโลก กรีนเคอมิน โปรโมชั่นเพียบ 5 แถม 1 หรือ 2 กล่องขึ้นไปส่งฟรี

ปรึกษา/สั่งซื้อทักด่วน
โทร : 080-955-3303
 Line : https://lin.ee/mFNug7i

8194
อื่นๆ / บริการหวยออนไลน์
« เมื่อ: 01 2022-03-01 2022 05:%i:1646088573 »
พร้อมมีระบบแนะนำลูกค้าซึ่งสามารถทำเป็นรายได้โดยที่เราไม่ต้องเล่นเอง เพียงแค่ส่งลิ้งค์แนะนำลูกค้าได้ค่าคอมถึง 8% จ่ายเยอะ จ่ายไว มั่นคง ปลอดภัย มีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลตลอด 24ชม.
สมัครสมาชิก huaysky789 | huay sky | huaysky คลิ๊กที่นี่ https://www.huaysky789.com/ [pr]

8195
ก.คลังสปป.ลาวเตรียมออก Baht Bond [pr] วงเงินไม่เกิน 5 พันลบ.ดอกเบี้ย 5.80-6.40%

กระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาว ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายพันธบัตรต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ชุด

ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2568 วงเงินเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และวงเงินสำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.80%

ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และวงเงินสำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6.40%

ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 28-30 มี.ค.65 ผ่าน บล.เคทีบีเอสที บล.ฟินันเวีย ไซรัส บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) บล.คิงส์ฟอร์ด บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ และ บล.สยามเวลธ์

ขณะที่บริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือผู้ออกพันธบัตรที่ BBB- และแนวโน้ม Negative เมื่อวันที่ 17 ก.พ.65

8196
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเป้าหมายปี 2022 [pr] มุ่งสร้างศักยภาพที่โดดเด่นเหนือตลาด

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน เปิดเผยผลการดำเนินงานอันโดดเด่นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ในปี 2021 โดยความสำเร็จหลักมาจากความสามารถในการปรับตัวขององค์กรได้เป็นอย่างดีและสามารถจับทิศทางศักยภาพการเติบโตของตลาดที่แตกต่างกันได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ร่วมกันต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปด้วยกัน ผ่านเส้นทางในการก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความมุ่งมั่นด้านสภาพอากาศขององค์กรต่างๆ เพื่อให้บรรลุความยั่งยืน

สเตฟาน นูสส์ (Mr. Stephane NUSS) ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่าปี 2021 นับเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในทั่วโลก ด้วยการบรรลุรายได้สูงสุดตลอดที่ผ่านมา อยู่ที่ 29,000 ล้านยูโร คิดเป็นการเติบโตสุทธิของผลกำไรอยู่ที่ +12.7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้มาจากความก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งในแต่ละปี โดยในประเทศไทย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นธุรกิจในประเทศกลับสู่สถานะก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด ด้วยรายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาเช่นกัน

"จากที่โลกตกอยู่ในสภาวะความไม่แน่นอน และเกิดการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน การสร้างผลงานในประเทศไทยได้อย่างโดดเด่นในภาวะที่มีเงื่อนไขทางการตลาดเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราในการปรับตัวให้เข้ากับโลกใบใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงข้อเท็จจริงที่เรามีจุดยืนที่ดีในตลาดที่มีการเติบโตมาก ทั้งด้านการสร้างความยั่งยืนและการปรับตัวสู่ดิจิทัล" สเตฟาน กล่าว

ปี 2022 มุ่งสู่ความยั่งยืน
ในปีนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังคงเดินหน้าต่อไปในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งไปสู่ความยั่งยืน ภายใต้เศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero) โดยการเร่งให้องค์กรธุรกิจและองค์กรด้านอุตสาหกรรม ก้าวสู่การปรับกระบวนการสู่ระบบดิจิทัล ขจัดก๊าซคาร์บอน และปฏิรูปทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างผลงานในตลาดประเทศไทยได้อย่างโดดเด่น คือสิ่งสำคัญอันดับต้นสำหรับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในปี 2022

"ที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เราเชื่อว่าระบบไฟฟ้าคือพลังงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด และเมื่อระบบไฟฟ้ามาบรรจบกับระบบดิจิทัล ก็จะเป็น ระบบไฟฟ้า 4.0 ที่จะนำเสนอแนวทางใหม่ในการกระจายพลังงาน มองเห็นสถิติการใช้พลังงาน และนำไปสู่การประหยัดพลังงานในที่สุด ซึ่งอนาคตคือ ระบบไฟฟ้าสู่ "ความเป็นศูนย์" การสูญเสียพลังงานเป็นศูนย์ การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ เรากำลังสร้างโลกพลังงานใหม่ ด้วยการนำเสนอการใช้พลังงานด้วยระบบอัจฉริยะให้แก่ ที่พักอาศัย อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม ระบบโครงสร้าง และกริด" สเตฟาน นูสส์ กล่าว

สเตฟาน ยังได้กล่าวเสริม โดยคาดว่าจะมีการใช้ระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในการใช้พลังงานแบบผสมผสานภายใน 20 ปีข้างหน้า ดังนั้น โลกจะกลายเป็นระบบไฟฟ้ามากขึ้น เมื่อใช้ระบบไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อขจัดคาร์บอน ควบคู่ไปกับการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อสร้างประสิทธิภาพ ก็จะช่วยนำพาธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในทุกภาคส่วนไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

สอดคล้องตามผลการศึกษาจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และ GreenBiz Research ที่ว่า หลายองค์กรที่มีการบริหารจัดการเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง องค์กรเหล่านี้จะได้รับผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่สูงกว่าองค์กรที่ไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ถึง 67 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย นอกจากนี้ การวิจัยล่าสุดจากสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ยังเผยให้เห็นว่า บริษัทที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม จะมีอัตราการเติบโตประจำปีอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์

ในบทบาทของการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้กับลูกค้า ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์ ระบบวิเคราะห์ และบริการ เพื่อช่วยขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการดำเนินการให้กับลูกค้าในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคสาธารณูปโภค อาคาร อุตสาหกรรม และดาต้าเซ็นเตอร์ อีกทั้งช่วยปรับปรุงการใช้สินทรัพย์ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของพันธมิตร ตัวแทนจำหน่าย และอื่นๆ เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ในแง่ของอาคารอัจฉริยะ โรงงานอัจฉริยะ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ พลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งโครงการ 5G เช่นกัน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้นำเสนอแนวทาง 3 ขั้นตอนในการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆ ด้านความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ ไปจนถึงการดำเนินการ เพื่อมอบผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพอากาศตามความมุ่งมั่นขององค์กรเหล่านั้น ซึ่งแนวทาง 3 ขั้นตอน มีดังต่อไปนี้

การวางกลยุทธ์ เพื่อกำหนดสถานภาพปัจจุบัน จากจุดที่ลูกค้าเริ่มต้นโครงการ รวมถึงการประเมินเพื่อกำหนดหาฐานอ้างอิง พร้อมกับการพัฒนา roadmap ในการขจัดคาร์บอนทั้งหมดที่ต้องดำเนินการ
การปรับสู่กระบวนการดิจิทัล เพื่อตรวจสอบทรัพยากรทั้งหมดที่ใช้ และการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้อง จากนั้นระบุหาโอกาสในการลดคาร์บอน โดยใช้แพลตฟอร์มและการบริการของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ประสิทธิภาพได้อย่างโดดเด่น
การดำเนินการตามแผนงาน เพื่อดำเนินการตามแผนทั้งหมดและนำไปสู่การขจัดคาร์บอนในที่สุด ด้วยการเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นระบบไฟฟ้า ลดการใช้พลังงาน โดยใช้โซลูชัน ผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมต่อทั้งหมดของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
มอบประสบการณ์ด้านซอฟต์แวร์ที่ไร้รอยต่อ
สเตฟาน นูสส์ ยังกล่าวต่อว่า ในปีนี้ ซอฟต์แวร์ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักในการมอบประสิทธิภาพให้กับลูกค้า ด้วยความร่วมมือกันของผลิตภัณฑ์ด้านซอฟต์แวร์ระบบเปิดจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และบริษัทซอฟต์แวร์อิสระชั้นนำของโลก จะช่วยปรับกระบวนการทำงานด้านพลังงานและระบบอัตโนมัติเป็นดิจิทัล โดยมอบศักยภาพในการใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างราบรื่น ตลอดทั่วทั้งวงจรการทำงาน ตั้งแต่การออกแบบ การสร้างไปจนถึงการดำเนินการและการดูแลรักษา

โซลูชันซอฟต์แวร์นี้จะช่วยให้การทำงานสมบูรณ์สอดรับกับความต้องการใช้งานของลูกค้าที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยขจัดปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการทั้งใน ดาต้าเซ็นเตอร์ อาคาร อุตสาหกรรม และระบบโครงสร้างพื้นฐาน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังมุ่งเน้นช่วยลูกค้าในการกำหนดและเลือกข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อสร้างแนวทางสู่การปฏิรูปและปรับเปลี่ยนกระบวนการเป็นระบบดิจิทัล ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากระบบอัตโนมัติให้ได้มากที่สุด กระบวนการนี้ต้องร่วมมือกันจากซัพพลายเชนทั้งระบบ จากแหล่งผลิตต้นทางไปยังฟาร์ม จนถึงโรงงานและต่อไปยังผู้ค้าปลีก จนถึงผู้บริโภค เพื่อส่งมอบคำมั่นสัญญาเรื่องความโปร่งใสของที่มาให้กับผู้บริโภคปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ในหลายปีที่ผ่านมา เราได้ซื้อกิจการจากผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์หลายรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมอย่าง Aveva และ ETAP สำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบไฟฟ้าเป็นหลัก และซอฟต์แวร์ RIB สำหรับอาคาร เป็นต้น พันธกิจของเราคือการทำให้ซอฟต์แวร์ทั้งหมดผสานรวมการทำงาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบวงจรในแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ให้กับลูกค้าในตลาด และแน่นอนซอฟต์แวร์ทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมต่อกับโซลูชัน IoT และผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อของเรา เพื่อให้ประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น" สเตฟาน นูสส์ กล่าว

ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการประกาศความมุ่งมั่นด้วยคำปฏิญาณด้านคาร์บอน เพื่อเร่งเปลี่ยนสู่ Net Zero Carbon หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ให้ได้ภายในปี 2030 โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้ได้ภายในปี 2025 เพื่อมุ่งมั่นสู่การสร้างความเป็นกลางด้านคาร์บอน สำหรับการดำเนินการในทางสังคม ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มุ่งมั่นในการสร้างศักยภาพให้กับคนทำงานในทุกรุ่นและทุกภูมิภาค อีกทั้งสร้างความมั่นใจว่าบริษัทฯ ได้มอบโอกาสที่ทัดเทียมให้กับทุกคน

"สำหรับพวกเราที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่อยู่นอกเหนือการทำธุรกิจ แต่เป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่งที่เราทำ" สเตฟาน นูสส์ กล่าวสรุป

8197
ก.ล.ต.ปรับปรุงนิยามผู้ลงทุนสถาบัน-ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ-ผู้ลงทุนรายใหญ่ [pr]

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกเกณฑ์เพื่อปรับปรุงการกำหนดบทนิยามผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ และผู้ลงทุนรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับความรู้ความเข้าใจในลักษณะและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่จะลงทุน รวมถึงความสามารถในการรับความเสี่ยง เพื่อให้กิจการและผู้ลงทุนเข้าถึงช่องทางการระดมทุนและการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น

ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์เพื่อปรับปรุงการกำหนดบทนิยามผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ และผู้ลงทุนรายใหญ่ สำหรับการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกประเภทภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เพื่อให้ผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในลักษณะและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอ และมีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้ มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายมากขึ้น ในขณะที่กิจการที่ต้องการเงินทุนก็มีโอกาสเข้าถึงช่องทางระดมทุนที่เปิดกว้างมากขึ้น

การปรับปรุงหลักการนิยามผู้ลงทุนในครั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เพิ่มผู้ลงทุนสถาบันให้ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ลงทุนที่มีความสามารถในการวิเคราะห์และการรับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนหรือเสี่ยงสูงมาก เช่น นักวิเคราะห์การลงทุน นิติบุคคลร่วมลงทุน (venture capital) กิจการเงินร่วมลงทุน (private equity) ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ (angel investor) และคนคุ้นเคยกิจการ เป็นต้น ในส่วนของผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษและผู้ลงทุนรายใหญ่ ได้ผ่อนคลายคุณสมบัติด้านฐานะทางการเงิน ขณะเดียวกันได้เพิ่มหลักการพิจารณาคุณสมบัติด้านความรู้หรือประสบการณ์ของผู้ลงทุนเพิ่มเติม

ทั้งนี้ การออกหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565

8198
ASIAN สุดปัง !! กำไรปี 64 นิวไฮอยู่ที่ 1,044 ลบ. โตเฉียด 28% ปันผลงวดครึ่งปี [pr]หลังอีก 0.40 บ./หุ้น ปี 65 ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงพระเอกนำโตต่อเนื่อง ปักธงยอดขายโต 12%

เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ "ASIAN" ตั้งธงรายได้ปี 65 โต 12% ชูธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเด่นสุดรับเทรนด์โลก โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาออเดอร์แน่น เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต ดันบริษัท AAI เข้า ตลท. รับโอกาสโตชิงเค้กก้อนใหญ่ ด้านงบปี 64 กำไรนิวไฮอยู่ที่ 1,044 ลบ. พุ่งเฉียด 28% สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.8% ยอดขายรวมอยู่ที่ 9,488 ลบ. ผลจากการที่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตแข็งแกร่ง และรายได้เพิ่มขึ้นจากอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ด้านบอร์ดประกาศจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปีหลังอีกอัตราหุ้นละ 0.40 บาท กำหนดจ่ายปันผล 18 พ.ค. 2565 นี้

นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ประกอบธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง อาหารสัตว์น้ำ ทูน่า และผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า ปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการเติบโต 12% จากปีก่อน รับเทรนด์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงบูมต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นฐานกำลังการผลิตสำคัญ และ ASIAN ได้รับความเชื่อมั่นจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก โดยบริษัทคาดการณ์ว่า ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงของ ASIAN จะเติบโตได้ราว 15% ขณะที่ความต้องการอาหารสัตว์น้ำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาขายสัตว์น้ำหน้าฟาร์มและการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่ายอดขายกลุ่มอาหารสัตว์น้ำจะเติบโตราว 27% ในส่วนของธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง และทูน่า แม้ได้รับแรงกดดันจากค่าขนส่งทางทะเลที่อยู่ในระดับสูง และราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มสูงกว่าปี 2564 แต่บริษัทฯ จะมุ้งเน้นบริหารจัดการภายในอย่างรัดกุม ผลักดันกลุ่มธุรกิจที่เป็นไฮมาร์จิ้นและมีโอกาสเติบโต

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณ 660 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 520 ล้านบาท เพื่อรองรับคำสั่งซื้อได้มากขึ้น โดยกำลังการผลิตสูงสุดจะเพิ่มเป็น 42,000 ตัน ในไตรมาส 2/2565 พร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตและโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง 85 ล้านบาท และปรับปรุงกระบวนการผลิตอื่นๆ 55 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต

อีกทั้งการผลักดันบริษัทย่อย คือ บริษัท เอเชี่ยนอะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (AAI) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IPO) ในปีนี้ จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้านผลประกอบการของบริษัทในงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 818 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 9,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขายและบริการ 8,645 ล้านบาท โดยกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมีสัดส่วนสูงที่สุด รองลงมาคือกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็ง ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีผลงานอย่างโดดเด่นในปีที่ผ่านมา

ด้านกำไรขั้นต้นปี 2564 อยู่ที่ 1,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,393 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 19.8% ซึ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริมดำเนินกิจการ เทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.1% เนื่องจากยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงสูง และมีอัตรากำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น

สำหรับไตรมาส 4/2564 มีกำไรสุทธิ 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 ที่มีกำไรสุทธิ 211 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 2,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 7.9% โดยยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ 1,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน โตโดดเด่นสุดในกลุ่ม และธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งเติบโตรองมา โดยยอดขายอยู่ที่ 957 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%

ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการขายรวมในปี 2564 แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงราว 43% อยู่ที่ 4,206 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 22% รองลงมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งสัดส่วนอยู่ที่ 35% รายได้อยู่ที่ 3,498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำอยู่ที่ 1,271 ล้านบาท ลดลง 7% กลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่าอยู่ที่ 849 ล้านบาท ลดลง 22 % ยอดขายทูน่าที่ลดลง เนื่องจากปัญหาค่าขนส่งทางเรือสูงและขาดแคลนแรงงาน ทำให้ต้องจัดสรรแรงงานที่มีอยู่อย่างจำกัดไปในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแทน

"ผลประกอบการปี 64 ออกมาเป็นที่น่าภูมิใจ เราสามารถได้ประโยชน์จากการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์อัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยบวก มาจากการที่ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นต่อนื่องในปีนี้ เนื่องจากจำนวนสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นทั่วโลก การเลี้ยงสัตว์แบบเป็นสมาชิกในครอบครัว ทำให้เจ้าของเต็มใจที่จะซื้ออาหารระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มบริษัทสามารถรับมือกับความท้าทายในด้านอื่น ๆ ได้น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม " นายเอกกมล กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิผลการดำเนินงานในรอบปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 529.16 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.25 บาทต่อหุ้น และคงเหลือการจ่ายปันผลส่วนที่เหลืออีก 0.40 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2565

8199
เพิ่ม-ถอน ด้วยระบบอัตโนมัติ ปรับยอดใน 5 วินาที มีหวยให้ร่วมลุ้นตลอด 1 วัน แอดมินมืออาชีพ ตอบได้ทุกปัญหา

8200
ครัวบ้านยาย วัดถ้ำสนุก บ้านนา ชุมพร อาหารตามสั่งและเครื่องดื่มชา-กาแฟ-กาแฟสด  โทร/ไลน์ 0867348650

8201
Green Curmin ปัญหากรดไหลย้อนช่วยได้ นวัตกรรมไทย ชนะรางวัลเหรียญทองระดับโลก กรีนเคอมิน โปรโมชั่นเพียบ 5 แถม 1 หรือ 2 กล่องขึ้นไปส่งฟรี

ปรึกษา/สั่งซื้อทักด่วน
โทร : 080-955-3303
 Line : https://lin.ee/mFNug7i

8202
อื่นๆ / บริการหวยออนไลน์
« เมื่อ: 28 2022-02-28 2022 06:%i:1646002969 »
พร้อมมีระบบแนะนำลูกค้าซึ่งสามารถทำเป็นรายได้โดยที่เราไม่ต้องเล่นเอง เพียงแค่ส่งลิ้งค์แนะนำลูกค้าได้ค่าคอมถึง 8% จ่ายเยอะ จ่ายไว มั่นคง ปลอดภัย มีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลตลอด 24ชม.
สมัครสมาชิก huaysky789 | huay sky | huaysky คลิ๊กที่นี่ https://www.huaysky789.com/ [pr]

8203
ยินดีให้บริการ สนใจติดต่อสอบถามได้ครับ โทร 085-108-8797

8204
ส.อ.ท.คาดปี 65 ยอดรถทะเบียนรถ EV พุ่งกว่า 2 เท่ารับมาตรการหนุนของภาครัฐ [pr]

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค. 65 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 628 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.ปีที่แล้ว 74.44% ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV (วันที่ 31 ม.ค.65) มีจำนวนทั้งสิ้น 12,005 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 100.58%

ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี 64 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ประมาณ 1,800-1,900 คัน ทั้งนี้ หากมีการนำเข้ารถยนต์ EV มากขึ้น ประกอบกับมาตรการการส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก คาดว่าในปี 65 จะมีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หรืออยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 คัน

"การประกาศโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ที่แม้ว่าจะไม่ได้ชื่อว่าเป็นรถ Eco Car แต่ก็อยู่ในกลุ่มของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ ดังนั้นภาษีจึงไม่สูง ยังถือว่าเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งของประชาชนได้ สอดรับกับนโยบายรัฐบาล และบอร์ด EV ที่ตั้งเป้าไว้ว่าหากได้เซ็นสัญญาปารีสจะลดคาร์บอนฯ ลง ดังนั้น อัตราภาษีที่คณะรัฐมนตรีประกาศออกมาก็เป็นอีกหลักที่สอดรับนโยบายต่างๆ ทั้งนี้ ต้องศึกษาติดตามต่อไปเรื่องความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาต่างๆ ที่จะทำให้การปล่อยคาร์บอนฯ ลดลง ซึ่งก็เริ่มเห็นหลายค่ายพัฒนาแล้ว เช่น รถประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยไอเสีย"นายสุรพงษ์ กล่าว

8205
'โฮมโปร' อวดรายได้ [pr]ปี 64 รายได้ 63,925.79 ล้านบาท โชว์กำไรสุทธิ 5,440.52 ล้านบาท

บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เผยผลประกอบการปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 63,925.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,176.80 ล้านบาท หรือ 3.53% โดยมีกำไรสุทธิ 5,440.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.82 ล้านบาท หรือ 5.54% รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทได้ปรับตัวในวิกฤติแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทั้งพัฒนาปรับปรุง ด้านสินค้า และบริการ ให้สอดรับกับวิถีชีวิตแบบใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน บริการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้สามารถทำงานที่บ้านได้ รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้า และบริการภายใต้ Omni Channel Platform ส่งผลทำให้ยอดขายสาขาเดิม ยอดขายออนไลน์ และรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 63,925.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,176.80 ล้านบาท หรือ 3.53% โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,440.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.82 ล้านบาท หรือ 5.54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ประกอบด้วย รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 60,567.91 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 2,221.14 ล้านบาท หรือ 3.81%

โดยทั้งปี 2020 และ 2021 มีผลกระทบจากมาตรการปิดสาขาชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ปรับตัว และพัฒนาปรับปรุง ทั้งสินค้า และบริการ ให้สอดรับกับวิถีชีวิตแบบใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน บริการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้สามารถทำงานที่บ้านได้ รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้า และบริการภายใต้ Omni Channel Platform ส่งผลทำให้ยอดขายสาขาเดิม ยอดขายออนไลน์ และรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมของประเทศมาเลเซีย ที่ยังหดตัวจากการปิดสาขา และมีมาตรการควบคุมการเข้าใช้บริการที่มีช่วงระยะเวลานานกว่า เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า Home Service รวมจำนวน 15,642.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 894.02 ล้านบาท หรือ 6.06% เมื่อเทียบกับปีก่อน จำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากยอดขายสินค้า และบริการที่เติบโตขึ้น และจากการเพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น สินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และสินค้ากลุ่มปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ที่เพิ่มตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25.28% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.83%

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ภาครัฐยังได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงได้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ขณะเดียวกันดัชนีราคาสินค้าเกษตรก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงช่วยเพิ่มกำลังซื้อในพื้นที่ที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวและการเกษตร เช่น พื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มีการเติบโตที่ดีขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ได้จัดงาน ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น งาน Homepro Day และ Homepro Super Expo และกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่องทางออนไลน์ต่างๆ

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ลูกค้าไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าที่สาขาได้ตามปกติ ทำให้ลูกค้าเลือกหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการพัฒนากระบวนการที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการและการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น ผ่าน 3 แอปพลิเคชั่น ได้แก่ HomePro Application, Home Service Application และ Home Card Application รวมถึงช่องทาง Omni Channel และพัฒนาการให้บริการช่วยเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Shop4U โดยนอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกด้วยบริการขนส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ (Same Day Delivery) หรือจะเลือกมารับสินค้าที่สาขา (Click and Collect) โดยช่องทางเหล่านี้มีความยืดหยุ่นสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลง และผลกระทบของการแพร่ระบาดได้อย่างทันท่วงที

โฮมโปร ยังได้มีการพัฒนาสินค้า และบริการเพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ที่มีความต้องการด้านสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการอยู่บ้านมากขึ้น โดยเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น กลุ่มสินค้าที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และด้านสุขอนามัย กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน หรือกลุ่มสินค้าสำหรับทำอาหารที่บ้าน ตลอดจนการพัฒนาสินค้าและบริการ ร่วมกับคู่ค้าโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสนใจในประเด็นนี้มากขึ้น

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ในส่วนด้านงานบริการ บริษัทฯ พัฒนาแอปพลิเคชั่น Home Service ที่มีงานบริการเกี่ยวกับบ้านอย่างครบครัน ด้วยทีมงานมืออาชีพ สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟดับ แอร์ไม่เย็น น้ำไม่ไหล เพียงติดต่อผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นหรือผ่านช่องทาง Call Center และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเข้าบริการ ทีมช่างจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ด้วยชุดตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ก่อนการให้บริการ 

'บริษัทฯ ยังมีกลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน และสร้างเสถียรภาพให้กับระบบกระจายสินค้าให้สามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทฯ มีมาตรการบริหารจัดการ ป้องกันและควบคุมโรค ในที่ศูนย์กระจายสินค้า (Bubble and Seal) ที่เป็นการจำกัดพื้นที่โดยการแยกผู้ที่ติดเชื้อไปรักษา และกักกันผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยง ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง นอกจากนี้ในช่วงที่ขาดแคลนสถานพยาบาล และการให้บริการสาธารณสุข บริษัทฯ ได้สร้างโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย โดยบริหารร่วมกับโรงพยาบาลราชธานี เพื่อรักษาชีวิตของพนักงาน และขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ป่วยในชุมชนรอบข้างอีกด้วย' นายคุณวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

หน้า: 1 ... 545 546 [547] 548 549 ... 556