รับทำ SEONo1 ทำ SEO ติดอันดับจริง ผลงานเพียบ

PT ทุ่ม 200 ลบ.เปิดรูปแบบใหม่คอมมูนิตี้มอลล์ [pr]-ปั้มน้ำมันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

นายสุทธิพงษ์ วรรณวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด (PTC) ในเครือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการ "PT Max Park Salaya" บนเนื้อที่ 9 ไร่ ริมถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาเข้า อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม แบ่งพื้นที่บริการเป็น 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมันและคอมมูนิตี้มอลล์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร และชั้นครึ่ง 1 อาคาร ที่จะมีทั้งร้านค้าชั้นนำในเครือบริษัท PTG และพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 30 ร้านค้ามาเปิดให้บริการ ด้วยงบลงทุนรวมค่าที่ดินราว 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในเฟสแรกเริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.65 และคาดว่าจะเปิดบริการเต็มรูปแบบประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 นับเป็นแลนด์มาร์คของการพักผ่อน การพบปะสังสรรค์และการช็อปปิ้ง ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการในแบบวิถี New Normal อย่างลงตัว

สำหรับสถานีบริการน้ำมัน ได้รับการออกแบบสไตล์โมเดิร์น ติดตั้งหัวจ่ายน้ำมันระบบดิจิทัล รวม 30 หัวจ่าย เพิ่มความสะดวกในการเติมน้ำมัน พร้อมจัดการเดินรถแบบวงเวียน ให้รถวนเคลื่อนที่ไปในทางเดียวกัน รวมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยมาใช้ในการให้บริการ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ รวมทั้งจัดจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในสถานีบริการ ทำให้ "PT Max Park Salaya" เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน

ส่วนพื้นที่ภายในคอมมูนิตี้ มอลล์ จะประกอบไปด้วยร้านค้าในเครือ PTG เปิดให้บริการตามโซนต่างๆ เช่น max mart ร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายสินค้ามีคุณภาพและได้มาตรฐาน, กาแฟพันธุ์ไทย กาแฟไทยรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม ให้บริการท่ามกลางบรรยากาศร้านสไตล์ไทย คอนเทมโพรารี่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว, COFFEE WORLD แบรนด์กาแฟระดับพรีเมียม โด่ดเด่นด้วยร้านดีไซน์ล้ำสมัยสวยสะดุดตา, max Gas ร้านจำหน่ายก๊าซหุ้มต้มพีที , AUTOBACS ศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจรมาตรฐานญี่ปุ่น โดยทีมช่างผู้ชำนาญ

พร้อมทั้ง NEXX Pharma ร้านจำหน่ายยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ โดยเภสัชกรผู้มีประสบการณ์ รวมถึงร้านค้าจากพันธมิตรอีกจำนวนมาก อย่างเช่น แมคโดนัลด์ , มีดี ข้าวขาหมู , โปลิ-เคม ศูนย์บริการคาร์แคร์แบบครบวงจร และร้านซักผ้าหยอดเหรียญ Otteri Wash and Dry โดยร้านค้าต่างๆ ได้จัดให้มีโปรโมชั่นสุดพิเศษมอบให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในช่วงฉลองเปิด "PT Max Park Salaya" ในระหว่างวันที่ 14-20 ก.พ.65

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่ง บนชั้น 2 ของคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เป็นพื้นที่ Co-Working Space พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้บริการสำหรับสมาชิก PT Max Card เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความอิสระและความสะดวกสบาย ตลอดจนจัดให้มีที่จอดรถเพียงพอและปลอดภัย มีห้องน้ำสาธารณะสำหรับเด็ก การออกแบบและตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบให้ร่มรื่นสวยงาม เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมมีมาตรการในการดูแล เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เช่น การบริการเจลแอลกอฮอล์ในจุดต่างๆ การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพร้อมฆ่าเชื้อตามพื้นผิวต่างๆ และการตรวจคัดกรองพนักงานก่อนเข้างาน

"PT Max Park Salaya นับเป็นสถานีบริการน้ำมันและคอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรก ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างดีที่สุดและจะเป็นเทรนด์ที่ตอบรับกับสังคมยุคใหม่อย่างลงตัว โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป พร้อมมุ่งพัฒนาสถานีบริการน้ำมันต่างๆ ให้เป็นพื้นที่สร้างสุข ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ทุกชีวิต "อยู่ดีมีสุข" รวมทั้งสร้างฐานการเติบโตในธุรกิจบริษัทฯ อย่างมั่นคง" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

โลกกำลังเดินหน้าสู่การทำงานในต้นแบบ New Normal ที่จะช่วยให้ผู้คนปฏิบัติงานได้จากสถานที่ต่างๆได้อย่างไร้ข้อจำกัด รวมทั้งเทคโนโลยีตัวอย่างเช่น Virtual Desktop Infrastructure หรือ VDI ที่ช่วยกันจำทดลองการทำงานเครื่องเดสก์ท็อปนั้น เปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับเพื่อการดำเนินงานให้แก่พนักงานหน่วยงานและผู้ดูแลระบบไอทีสามารถดำเนินงานได้อย่างไม่ยากเย็นมากยิ่งขึ้น

จัดการความท้าต่างๆให้เป็นเรื่องที่ไม่ยาก
สิ่งที่ทำให้ VDI เปลี่ยนเป็นประเด็นที่สำคัญในการนำมาใช้งานเยอะขึ้นเรื่อยๆ โน่นเป็นด้วยเหตุว่าความท้าต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่กับเดสก์ท็อปที่เป็นแบบฟิสิคัล (Physical) รวมทั้งการใช้งานแอปพลิเคชั่นในปัจจุบัน โดยมีประเด็นหลักที่เห็นได้อย่างแจ่มแจ้ง ยกตัวอย่าง ใจความสำคัญความปลอดภัยและก็การดำเนินตามข้อกำหนดแล้วก็แนวนโยบาย ซึ่ง VDI จะเข้ามาช่วยสำหรับเพื่อการจัดแจงระบบไม่ให้มีการรั่วไหลของข้อมูลจากเดสก์ท็อป การเพิ่มความปลอดภัยในโพลิซีแล้วก็กระทำดีพลอยไปยัง VDI ทั้งหมดทั้งปวง เป็นการช่วยทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศอินฟราสตรัคเจอร์ของหน่วยงานมีความปลอดภัยในชั้นสูง



ข้อความสำคัญถัดมาก็คือเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดแจงที่มีความสลับซับซ้อนแบบเริ่มแรกนั้น จะถูกส่วนประกอบแบบ VDI เข้ามาจัดการให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการทำงานในลักษณะแบบ Centralized Management ช่วยทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถจัดแจงทุกอย่างผ่านหน้าเว็บคอนโซลเดียว สามารถสร้างหรือลบพูลได้ในคราวเดียว ผิดแผกกับระบบเดสก์ท็อปแบบเดิม แม้มีการเพิ่มเครื่องใหม่เข้ามา คณะทำงานเทคโนโลยีสารสนเทศก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการจัดตั้งและก็คอนฟิกเครืองดัโลภล่าว ซึ่งก็จะใช้เวลานานกว่าเดิม แม้กระนั้นการมี VDI เข้ามาจะช่วยทุ่นเวลานี้ไปได้มากพอควร สามารถใช้อิมเมจเดียวกันสำหรับการจัดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้มาตรฐานสำหรับเพื่อการทำงานและก็ความปลอดภัยเดียวกันทั้งยังหน่วยงาน ด้วยข้อความสำคัญในข้างต้นทำให้ VDI เข้ามาช่วยลดเรื่องของดาวน์ไทม์ลงไปอย่างใหญ่โต พร้อมกับเพิ่มผลผลิตในการทำงานได้ดีกว่าระบบแบบเริ่มแรก รวมถึงในระยะยาวนั้น VDI จะช่วยตอบปัญหาด้านการลงทุนระบบไอทีได้ดียิ่งไปกว่า

เติมเต็มความรู้ความเข้าใจ VDI ให้กับองค์กรด้วย โซลูชั่น VMware Horizon
VMware Horizonเป็นโซลูชั่น VDI จากทาง VMware เป็นแพลตฟอร์ที่เพิ่มประสบการณ์ให้การทำงานของบุคลากรดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยความสามารถต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับการทำงานในยุคสมัยใหม่ ช่วยลดความยุ่งเหยิงสำหรับในการจัดตั้งเครื่อง การกำหนดโพลิซีให้กับเครื่องใหม่ รวมทั้งปัญหาความปลอดภัยต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ตอนนี้ VMware Horizon รองรับการใช้แรงงานกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องพีซี, เครื่องแมค, แล็ปท็อป, เครื่องมือ Thin Client. [pr]` และก็ยังรวมทั้งสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย



ตัว Horizon สามารถปฏิบัติงานในแพลตฟอร์มที่เป็นแบบ “เดสก์ท็อป”หรือแบบ “แอปพลิเคชั่น” ก็เลือกได้ตามความจำเป็น โดยในลักษณะแบบเดสก์ท็อปนั้น ทางระบบจะกระทำโพรวิชั่นในแบบที่เป็นการใช้งานรูปแบบที่เคยชิน (ดังเช่นว่าในกรณีการใช้แรงงานพีซีที่รัน วินโดวส์ 7 , วินโดวส์ 10 ฯลฯ) หรือกระทำโพพระอาทิตย์ชั่นในต้นแบบบแอปพลิเคชั่น ก็จะมีลักษณะแสดงผลลัพธ์หน้าตาเฉพาะแอปพลิเคชั่นตามที่พวกเราได้วางโพลิสิให้กับกลุ่ม VDI นั้น (จะเหมาะสำหรับวัสดุอุปกรณ์ชนิดสมาร์ทดีไวซ์หรือแท็ปเล็ต ฯลฯ)





เยอะมากด้วยคุณลักษณะที่น่าทึ่ง
คุณลักษณะของ VMware Horizon มีองค์ประกอบที่เด่นและครอบคลุมงานต่างๆได้อย่างนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นการเกื้อหนุนฟีพบร์และแอปพลิเคชั่นทั้งยัง Smart Card, กระบวนการทำ Client Drive Redirection, วิธีการทำ Location-based Printing, รองรับการใช้แรงงาน HTML5, การ Load Balancing, ทำ Remote Helpdesk, ทำในเรื่องของ Scanning and Imaging Devices, รองรับระบบ 3D App ได้ รวมทั้งฟีพบร์ฟังก์ชั่นฯลฯ



สิ่งที่ได้เปรียบของ Horizon ที่แตกต่างจาก VDI รายอื่นๆก็คือความรู้ความเข้าใจที่เหนือชั้นที่อย่างเช่น Instant Clone ที่สามารถโคลนระบบได้อย่างเร็วและแบบเรียลไทม์ และไม่จำต้องรีบูตระบบใหม่เลย ตลอดจนการทำงาน Applicaion Volume Delivery คือนอกเหนือจากการที่จะโคลนระบบค่าคอนฟิกของเครื่องได้อย่างทันทีทันใดแล้ว Horizon ก็ยังทำการโคลนตัวแอปพลิเคชั่นทั้งหลายแหล่ไปพร้อมกันได้ในทันทีด้วยด้วยเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งฟีพบร์อย่าง User Environment Manager (UEM) ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถกำหนดค่าเซตติงเป็นแบบ Personalized (รายตัว) ที่ไม่ว่ายูสเซอร์ท่านนั้นจะไปใช้เครื่องไหน ค่าคอนฟิกต่างๆก็จะตามไปด้วยในแบบเรียลไทม์ หรือจะกำหนดค่าเซตแย้งแบบ Location-Based (ตามสถานที่) ก็ทำเป็น โดยค่าคอนฟิกที่ระบุจะอิงตามโลเคชั่นเป็นหลัก

อรรถประโยชน์สูงสุดจาก Horizon
VMware Horizon ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นให้กับองค์กรสำหรับการปรับเปลี่ยนไปใช้โครงสร้างไอทีแบบ VDI กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตัวระบบจะกระทำจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมอิมเมจได้เร็วกว่าระบบอื่นถึง 30%, ดำเนินงานในส่วนการโคลนแอปพลิเคชั่นได้อย่างทันควัน (Instant App Delivery) อีกทั้งยังทำกำหนดกลุ่มโพลิซีในลักษณะที่มีเงื่อนไขจากที่หน่วยงานอยากได้ ทั้งแบบ Personalized รวมทั้งแบบ Location จากที่ได้กล่าวไปตอนต้น รวมถึงไม่มีดาวน์ไทม์สำหรับการคอนฟิกและดีพลอยระบบเลย และก็ที่สำคัญคุณสมบัติเหนือสิ่งอื่นใดของ VMware Horizon สามารถที่จะผสานระบบเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นๆของ VMware ได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็น VMware vSphere แพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งเวอร์ชวลไลเซชัน หรือ VMware vSAN ซึ่งเป็นระบบ Storage Virtualization Software หรือ NSX ซึ่งเป็น Network Security Virtualization Platform เป็นต้น โน่นจึงทำให้ VMware Horizonเป็นVDI ที่ทรงพลังที่สุดที่สมัย

เติมเต็มความชำนิชำนาญด้วยคณะทำงานจาก SiS
SiS ผู้ซึ่งเป็นผู้แทนขายคนสำคัญของ VMware ในกรุ๊ปสินค้าต่างๆและก็สำหรับ VMware Horizon นั้นคณะทำงานของ SiS มองว่า ผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์จากองค์ประกอบด้าน Virtual Desktop Infrastructure อย่างเต็มคุณภาพ ทั้งปัจจุบันนี้ ตัว VDI ที่รันบน SiS Cloud Services ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้การใช้งาน VDI จะมีเสถียรภาพสำหรับการใช้งานอย่างมากมาย

ความชำนาญของ SiS ยังครอบคลุมไปถึงตัวโซลูชั่น VMware Workspace ONE ที่เป็นระบบสำหรับการจัดการแอปพลิเคชันในทุกเครื่องไม้เครื่องมือได้อย่างปลอดภัย ช่วยรองรับในสิ่งที่ต้องการของพนักงานตามสไตล์การทำงาน สถานที่ หรือเครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้ได้ โดยเฉพาะกับ กรุ๊ปหน่วยงานที่เน้นเรื่องของความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าด้วย

ความสามารถของคณะทำงาน SiS นั้น เมื่อผนึกรวมกับโซลูชั่นอีกทั้ง VMware Workspace ONE รวมทั้ง VMware Horizon ทำให้สามารถตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของลูกค้าในทุกๆRequirement ไม่ว่าจะเป็น

ต้องการเน้นในเรื่องของ Data Protection แล้วก็ Policy Control
อยากเพิ่มความปลอดภัยให้กับ Web Application
อยากได้ใช้ Multifactor Authentication
ต้องการใช้ VPN สำหรับเพื่อการเข้าใช้งาน แอปพลิเคชั่น
ปรารถนาใช้งานระบบเปรียบเสมือนอยู่บนหน้าจอ PC Desktop ในสำนักงา
ต้องการจัดแจงระบบเพื่อเป็นไปตามมาตรฐานกฎข้อปฏิบัติ PDPA
สำหรับผู้ที่สนใจในสินค้าตัว VMware Workspace ONE และ VMware Horizon ปัจจุบันนี้ทาง SiS ได้ทำโปรโมชั่นพิเศษ โดยถ้าหากเป็นการบริหารจัดการระบบ VMware Workspace ONE Modern Management Essentials สำหรับ 50 เครื่องมือ แพงพิเศษอยู่ที่ 85,000 บาท หรือถ้าปรารถนาใช้งาน VMware Horizon 8 Advanced Term Edition รวมกับ VMware NSA Advanced Load Balancer for VDI จะแพง 500,000 บาท ซึ่งสามารถติดต่อกับทางทีมงานของ SiS ได้โดยทันที



ทดลองใช้งานได้จริง กับ Mini Showcase
แล้วก็เพื่อจะทำให้เห็นภาพการใช้แรงงานเทคโนโลยี VDI ได้อย่างเปรียบเสมือนจริงๆทาง SiS ได้เตรียมตัวให้ผู้ใช้งานเข้าไปทดลองผลิตภัณฑ์ (และของตัวทดลองใช้งาน) VMware Horizon และก็ VMware Workspace ONE ซึ่งได้เตรียมพร้อม Mini Showcase ขึ้นมา เพื่อสามารถให้องค์กรต่างๆเข้าไปตรวจสอบและลองใช้งานเทคโนโลยีได้ โดยครอบคลุมองค์ประกอบต่างๆที่สามารถรันระบบ VDI ในทุกสภาวะการณ์ดำเนินงานเทคโนโลยีสารสนเทศอินฟราสตรัคพบร์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์

อ่านต่อ [pr]

Samsung เปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงซีรีส์ Galaxy Tab S8 [pr] ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งคราวนี้จัดเต็มแบบสุด ๆ ทั้งสเปคแรงสุดขีด กับปากกา S Pen ที่ตอบสนองไวขึ้น…และแท็บเล็ตรุ่นนี้ยังใช้งานกับแอปวาดรูปยอดนิยมอย่าง Clip Studio Paint ได้เป็นอย่างดี ด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำอย่าง Companion Mode ที่สามารถเชื่อม Galaxy Tab S Series เข้ากับมือถือ Galaxy เพื่อเปลี่ยนหน้าจอของมือถือให้กลายเป็นจานสี สำหรับใช้เลือกสี เลือกหัวแปรงได้อีกต่างหากงาน Galaxy Unpacked ช่วงที่มีการเปิดตัว Galaxy Tab S8 Series ได้มีการโชว์ฟีเจอร์ใหม่ถอดด้ามอย่าง Companion Mode พร้อมกับแท็บเล็ตซีรีส์ดังกล่าวด้วย ฟีเจอร์นี้เรียกว่าเหมาะสุด ๆ สำหรับผู้ใช้งานสาย Digital Art ที่ใช้แอปยอดนิยม Clip Studio Paint ในการวาดรูปหรือทำกราฟิกบน Galaxy Tab S8 (หรือ Galaxy Tab S ซีรีส์ก่อนหน้านี้) และใช้มือถือ Galaxy อยู่ด้วย วิธีใช้งานก็ง่าย ๆ โดยดาวน์โหลดแอป Clip Studio Paint for Galaxy (Ver. 1.11. [pr]`9) จาก Galaxy Store มาติดตั้งทั้งบนมือถือและแท็บเล็ตให้เรียบร้อย (Galaxy Tab S8 ติดตั้งมาให้แล้ว) จากนั้นก็เชื่อมอุปกรณ์ทั้งคู่เข้าด้วยกันผ่านระบบ WiFi และเมื่อเปิดโหมด Companion บนมือถือปุ๊บ หน้าจอของมือถือก็จะกลายเป็นจานสีปั๊บจากนั้นก็ละเลงกันให้เต็มที่ เวลาอยากเปลี่ยนสีก็ให้เราใช้นิ้วจิ้มเลือกสี, หัวแปรงหรือเครื่องมือต่าง ๆ บนหน้าจอมือถือได้เลย เพิ่มความสะดวกในการวาดรูปบนแอป Clip Studio Paint มากขึ้น เพราะไม่ต้องมีหน้าต่างจานสีมาเกะกะบนหน้าจอแท็บเล็ตนั่นเองCompanion Mode ยังมีฟีเจอร์ Sub View ดูดสีจากภาพใน Gallery เครื่อง หรือจะถ่ายรูปใหม่เพื่อเลือกใช้สีจากภาพนั้นเลยก็ได้ หรือจะเป็นฟีเจอร์ Touch Gestures ลากนิ้วบนหน้าจอมือถือเพื่อใช้คำสั่งต่าง ๆ อย่างเช่นหมุน Canvas, Zoom หน้าจอ, Undo / Redo ด้วยการใช้ 2 นิ้วเคาะหน้าจอ ก็ได้ (อันนี้ส่วนตัวคิดว่าทำบนหน้าจอแท็บเล็ตเอาจะสะดวกกว่า)สำหรับมือถือ Galaxy ที่รองรับการใช้งานแอป Clip Studio Paint for Galaxy ได้ ก็มีเพียบตั้งแต่รุ่น Galaxy S8 Series นู่นเลย โดยสามารถเข้าไปดูรายชื่อมือถือและแท็บเล็ต Galaxy Tab S ที่รองรับได้จากเว็บไซต์ของ Clip Studio  [pr](Companion Mode ยังรองรับการใช้งานแอป Clip Studio Paint สำหรับระบบ Windows ได้อีกด้วยนะ)บอกเลยว่า Galaxy Tab S8 Series ในตอนนี้เป็นแท็บเล็ต Android ที่ทรงพลังที่สุด และยังเหมาะสุด ๆ กับการทำงาน Digital Art ไม่ว่าจะเป็นสเปคเร็วแรง หน้าจอที่ใหญ่สะใจ และปากกา S Pen ที่ความหน่วงต่ำสุดถึง 2.8 มิลลิวินาที (Galaxy Tab S8 รุ่นธรรมดา 6.2 มิลลิวินาที) ใครที่เป็น Digital Artist แล้วอยากได้แท็บเล็ตคู่ใจสำหรับวาดรูปหรือใช้ในงานออกแบบ รับรองว่าไม่ผิดหวังเลยล่ะ

อ่านต่อที่ mymainer [pr]

ไมโครซอฟท์ทำข้อตกลงกับ Home Team Science and Technology Agency (HTX) หน่วยงานทางเทคโนโลยีภายใต้ Ministry of Home Affairs หรือ Home Team กระทรวงดูแลความยั่งยืนข้างในของสิงคโปร์ ตระเตรียมพัฒนาคลาวด์ภาครัฐ (sovereign cloud. [pr]`) ให้เป็นการเฉพาะ

ไม่มีเนื้อหาว่าคลาวด์นี้จะมีความรู้และความเข้าใจอะไรเป็นพิเศษบ้าง แต่โดยปกติการสร้างคลาวด์เฉพาะสำหรับรัฐบาลเช่นนี้มักให้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลได้มากขึ้น ห้ามนำข้อมูลออกนอกพรมแดนที่กำหนด ทางด้านไมโครซอฟท์ระบุว่าคลาวด์นี้จะสร้างบนเบื้องต้นของ Microsoft Azure

นอกเหนือจากการสร้างคลาวด์ให้รัฐบาลแล้ว กติกานี้ยังรวมการฝึกฝนพนักงานของ HTX พร้อมการสอบใบรับรองอีกปละ 600 ตำแหน่ง



อ่านข่าวอื่นต่อที่นี่ [pr]

Decrypto: กฎหมายกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจากการขุดคริปโท [pr]ฯ

การขุดเหมืองคริปโทฯ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นกิจกรรมที่มีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้าซึ่งถูกใช้เพื่อสนับสนุนกระบวนการขุดเหมืองคริปโทฯ และย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาสภาวะโลกร้อน แม้ว่าผู้ขุดเหมืองอาจมีทางเลือกในการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนเพื่อขุดเหมือง อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์หรือลมนั้นมีลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง (หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่า "มา ๆ หาย ๆ")

ดังนั้น หากคอมพิวเตอร์ที่ผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ ใช้ไฟฟ้าจากทรัพยากรหมุนเวียนเพียงอย่างเดียวย่อมหมายความว่ากระบวนการขุดเหมืองนั้นอาจจะไม่ต่อเนื่องก็เป็นได้ แม้ว่าผู้ขุดเหมืองอาจจะผลิตไฟฟ้าจากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนใช้เอง หรือซื้อไฟฟ้าที่ผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียนจากเพื่อนบ้าน แต่ก็เป็นไปได้ที่ผู้ขุดเหมืองจะต้องใช้ไฟฟ้าจากระบบโครงข่ายของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายด้วย เช่น ตอนที่คอมพิวเตอร์ไม่อาจใช้ไฟฟ้าจากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนในช่วงเวลากลางคืน (แต่ผู้ขุดหมืองต้องการขุดเหมืองคริปโทฯ ทั้งวันทั้งคืน) ผู้ขุดเหมืองอาจเลือกซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งโครงข่ายไฟฟ้านั้นอาจเป็นไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหินก็เป็นได้

คำถามคือ ผู้ขุดเหมืองนั้นจะ "มีส่วนรับผิดชอบ" ต่อการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ไฟฟ้าที่มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือไม่? เพียงใด?

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ว่ากฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงานของประเทศไทยจะสามารถทำให้ผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ ต้องรับผิดชอบต่อการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร และมุ่งที่จะตอบคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการกำหนดให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉพาะสำหรับการขุดเหมืองคริปโทฯ สูงขึ้นและอาจจะแตกต่างไปจากการใช้ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่น?

เหตุใดเราถึงมาพูดถึงเรื่อง "อัตราค่าไฟฟ้า" ในบริบทของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม? คำตอบ ง่าย ๆ ก็คือหากอัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้นการใช้ไฟฟ้าอาจลดลง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการผลิตไฟฟ้าก็จะลดลงด้วย การลดการบริโภคโดยอาศัย "ราคา" เป็นมาตรการลดแรงจูงใจในการบริโภคนั้นสามารถยกตัวอย่างในบริบทอื่น ได้เช่น รัฐสามารถกำหนดให้ผู้นำเข้าไวน์และบุหรี่ซิกาแรตมีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 หรือรัฐอาจกำหนดให้ผู้ผระกอบกิจการประปาซึ่งใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะเพื่อผลิตน้ำประปา มีหน้าที่ต้องเสียค่าใช้น้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561

จากตัวอย่างข้างต้น กล่าวได้ว่า รัฐทำให้ต้นทุนในการนำเข้าไวน์และบุหรี่ซิกาแรตและการผลิตน้ำประปาสูงขึ้น และในท้ายที่สุดต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าวจะถูกส่งต่อมาให้เป็นภาระกับผู้บริโภคในท้ายที่สุด ราคาของสินค้าและบริการที่สูงขึ้นดังกล่าวอาจมีส่วนช่วยให้เราลดการบริโภคสินค้าดังกล่าวลง เพราะเราอาจจะเลือกที่จะเก็บเงินในกระเป๋า โดยรัฐไม่ได้ออกคำสั่งว่า "จงประหยัด" โดยตรง

แล้วรัฐทำให้ต้นทุนการขุดเหมืองคริปโทฯ แพงขึ้นโดยทำให้ไฟฟ้าแพงขึ้นได้หรือไม่? เนื่องจากรัฐอาจจะต้องการควบคุมมิให้มีการขุดเหมืองคริปโทฯ มากเกินไปหรืออยากให้ไฟฟ้าถูกใช้เพื่อกิจกรรมอื่น ๆ มากกว่าการขุดเหมืองคริปโทฯ แม้ว่ารัฐจะมีอำนาจในการออกและบังคับใช้กฎหมาย เช่น ออกกฎหมาย "ห้ามมิให้มีการขุดเหมืองคริปโทฯ" หรือ "จำกัดการใช้ไฟฟ้าเพื่อการขุดเหมืองคริปโทฯ" และกำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืนข้อห้ามหรือข้อจำกัดดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายดังกล่าวจะบรรลุผลในการจำกัดหรือลดการขุดเหมืองได้จริงหรือไม่? และรัฐอาจประสบปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยเหตุนี้ การควบคุมการขุดเหมืองคริปโทฯ โดยอาศัยการ "กำกับอัตราค่าไฟฟ้า" ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ขุดเหมืองนั้นเลี่ยงที่จะไม่ใช้ไม่ได้ จึงเป็นอีกทางเลือกในการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมืองคริปโทฯ แนวทางนี้ตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่าหากอัตราค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ผู้ขุดเหมืองอาจตัดสินใจลดการขุดเหมืองลง หรือเลือกที่จะใช้ไฟฟ้าซึ่งผลิตจากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนในการขุดเหมืองมากยิ่งขึ้น

การคิดอัตราบริการในการผลิตไฟฟ้านั้น มิใช่สิ่งที่ผู้ผลิตจะสามารถทำได้ตามดุลพินิจโดยอิสระของตนเองหาก แต่ตกอยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 กกพ. กำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการของผู้รับใบอนุญาต ซึ่งรวมถึงกิจการ เช่น กิจการผลิต (Generation) และจำหน่ายไฟฟ้า (Retail) ให้มีแนวทาง เช่น ควรสะท้อนถึง "ต้นทุนที่แท้จริง" และคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมของการลงทุนของการประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ (ตามมาตรา 65(1) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550) ผู้รับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ามีหน้าที่ต้องเสนออัตราค่าบริการเพื่อให้ กกพ. พิจารณาและให้ความเห็นชอบตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550

"ต้นทุนที่แท้จริง" ของการผลิตไฟฟ้านั้นจะรวมถึงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนที่ผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้จำหน่ายไฟฟ้านั้นต้องใช้เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น ต้นทุนสิ่งแวดล้อม (Environmental Cost) เช่น การที่ลงทุนเพื่อติดตั้งและใช้งานระบบควบคุมมลพิษทางอากาศ หรือระบบการบำบัดน้ำจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าได้หรือไม่? หากรวมเข้าไปได้ ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าอาจสูงขึ้น แต่เป็นการสูงขึ้นที่สะท้อนค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ซึ่งอาจมีจำนวนมากขึ้นเนื่องจากมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เคร่งครัดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้

ตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง กรอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า (Electricity Tariff Regulatory Framework) พ.ศ. 2564 นั้น กกพ. จะให้ความเห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้าฐานที่จะไม่ทำให้ผู้ผลิตไฟฟ้าได้รับรายได้เกินกว่ารายได้พึงได้รับสูงสุด (Maximum Allowed Revenue หรือ "MAR") ตามข้อ 9 ของประกาศฯ

กรอบหลักเกณฑ์กำหนด MAR ประกอบด้วย ประมาณการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ประมาณการค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ฐาน (DEP) ประมาณการภาษีเงินได้นิติบุคคล (TAX) ผลตอบแทนของกิจการตามประเภทใบอนุญาตซึ่งอ้างอิงสินทรัพย์ฐาน (Regulatory Asset Base) และอัตราผลตอบแทน (Rate of Return) ที่เหมาะสม (RETURN) และค่าใช้จ่ายจากเหตุสุดวิสัย

ทั้งนี้ เห็นว่า ต้นทุนสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ผลิตไฟฟ้าสามารถถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ MAR ได้ หากถูกรวมเข้าในการคิดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าแล้ว ผู้ใช้ไฟฟ้าเพื่อการขุดเหมืองคริปโทฯ ย่อมจะต้องรับภาระราคาที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ในท้ายที่สุด

ผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ อาจไม่ซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใหญ่ ๆ โดยตรง หากแต่ซื้อไฟฟ้าจากผู้จำหน่ายไฟฟ้า เช่น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งรับไฟฟ้ามาจากผู้ผลิตไฟฟ้าผ่านระบบส่งไฟฟ้า โดยจะสามารถคิดค่าไฟฟ้าจากผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ "แพงขึ้น" เนื่องจากต้องการให้ผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ รับภาระต้นทุนสิ่งแวดล้อมในการผลิตและส่งไฟฟ้า โดยเป็นอัตราที่ "แตกต่าง" จากผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นได้หรือไม่?

อัตราค่าไฟฟ้าที่ผู้จำหน่ายไฟฟ้าสามารถเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้านั้นจะต้องเป็นอัตราที่ กกพ.ให้ความเห็นชอบตามมาตรา 66 ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ในปัจจุบัน กฟน. และ กฟภ. ได้แบ่งประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าเป็น ประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย ประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก ประเภทที่ 3 กิจการขนาดกลาง ประเภทที่ 4 กิจการขนาดใหญ่ ประเภทที่ 5 กิจการเฉพาะอย่าง ประเภทที่ 6 องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ประเภทที่ 7 สูบน้ำเพื่อการเกษตร และประเภทที่ 8 ไฟฟ้าชั่วคราว ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทจะเสียค่าไฟฟ้าในอัตราไม่เท่ากัน

แล้ว กฟน. และ กฟภ. จะสามารถเก็บค่าไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้าซึ่งใช้ไฟฟ้าเพื่อขุดเหมืองคริปโทฯ ในอัตราที่สูงกว่าการใช้ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้หรือไม่? หากให้ผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ จ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่มากขึ้นและมากกว่าผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นจะถือเป็นการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่?

ผู้เขียนมีความเห็นว่า การพิจารณาเรื่องการเลือกปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมในเรื่องการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าเป็นพิเศษสำหรับการขุดเหมืองคริปโทฯ นั้นมีประเด็นอยู่ที่ว่าการใช้ไฟฟ้าเพื่อขุดเหมืองคริปโทฯ เป็นลักษณะของกิจกรรมที่มีลักษณะที่ต่างไปจากการใช้ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่ เช่น หากมองว่าการใช้ไฟฟ้าเพื่อขุดเหมืองคริปโทฯ มิได้เป็นการใช้พลังงานเพื่อสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของคนในสังคม หากแต่เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่มุ่งผลในเชิงพาณิชย์ การใช้ไฟฟ้าทั้งสองกรณีนี้อาจถูกมองได้ว่ามีสาระสำคัญที่แตกต่างกันและสามารถถูกกำหนดให้มีอัตราค่าไฟฟ้าที่แตกต่างกันได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

เราอาจดูตัวอย่างจากกฎหมายไทยฉบับอื่นซึ่งมีเรื่องการเรียกเงินจากผู้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยมีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน เช่น พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 กำหนดให้มีการเรียกเก็บค่าใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะจากผู้ใช้น้ำประเภทที่สอง (การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปาและกิจการอื่น) และผู้ใช้น้ำประเภทที่สาม (การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง) แต่พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ไม่กำหนดให้มีเรียกเก็บค่าใช้น้ำจากผู้ใช้น้ำประเภทที่หนึ่ง เช่น ผู้ใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการดำรงชีพ

นอกจากนี้ ในต่างประเทศยังปรากฏตัวอย่างของการที่รัฐกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าเป็นพิเศษสำหรับการขุดเหมืองคริปโทฯ เช่น ในสาธารณรัฐคีร์กีซ (Kyrgyzstan) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับปี 64-68 กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าเพื่อขุดเหมืองคริปโทฯ ผู้ทำเหมืองทอง และบริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามที่ The Times of India ได้รายงานว่าผู้ขุดเหมืองคริปโทฯ ในสาธารณรัฐคีร์กีซจะถูกเรียกเก็บค่าไฟฟ้าราว 0.03 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง[1]

โดยสรุป การเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับการขุดเหมืองคริปโทฯ นั้น "เป็นไปได้" โดยอาจดำเนินการผ่านกำกับดูแลอัตราค่าไฟฟ้าในส่วนของการผลิตไฟฟ้าตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 กกพ. อาจยอมให้ผู้ผลิตไฟฟ้าสามารถรวมเอาต้นทุนสิ่งแวดล้อมเข้าไปในการกำหนดรายได้พึงได้รับสูงสุด

ในส่วนกิจการจำหน่ายไฟฟ้านั้น กกพ. อาจอนุญาตให้ผู้จำหน่ายไฟฟ้าสามารถเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับกิจการขุดเหมืองคริปโทฯ ในอัตราที่แตกต่างไปจากอัตราที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นได้ ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าอาจจะต้องเริ่มตระหนักว่าค่าไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นอาจไม่อัตราที่ "ถูกที่สุด" แต่อาจเป็นอัตราที่ "สมเหตุสมผล" ซึ่งได้รวมเอาต้นทุนสิ่งแวดล้อมเข้าไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับการขุดเหมืองคริปโทฯ นั้นยังมีอยู่อีกหลายประเด็น เช่น อัตราค่าไฟฟ้าที่จะกำหนดนั้นควรจะเป็นอัตราเท่าไหร่? การกำหนดอัตรานี้จะส่งผลเสียต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลหรือไม่? จะบังคับใช้อัตราดังกล่าวอย่างไร? หากผู้ขุดเหมืองนั้นเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยซึ่งใช้ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำรงชีวิตทั่วไปควบคู่ไปกับการขุดเหมืองคริปโทฯ ด้วย

อ.ดร.ปิติ เอี่ยมจำรูญลาภ

ผู้อำนวยการหลักสูตร LL.M. (Business Law) หลักสูตรนานาชาติ

คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

RCL เป้าปี 65 ปริมาณขนส่งโต [pr]กว่า 10% หลังเพิ่มเส้นทาง-ท่าเรือคลายความแออัด
 
นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส (หัวฟน้าภูมิภาค ปฏิบัติการ และธุรกิจ) บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 65 ปริมาณการขนส่งเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือยังสูง และบริษัทได้เพิ่มเส้นทางการขนส่งมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะเดียวกันปริมาณเรือที่รอการขนส่งสินค้าที่อยู่บริเวณท่าเรือมีปริมาณที่หนาแน่นมากในปัจจุบันคาดว่าจะคลี่คลายลงในช่วงครึ่งปีหลัง
ปัจจุบัน กองเรือของบริษัทมีจำนวน 50 ลำ ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมทยอยนำเรือที่เคยปล่อยเช่าไปก่อนหน้านี้ 10 ลำกลับมาเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าเอง ในขณะที่ช่วงปลายปี 65-ต้นปี 66 บริษัทเตรียมรับเรือเพิ่มเข้ามาอีก 2 ลำ พร้อมทั้งยังคงเน้นการบริหารจัดการกองเรืออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้เรือขนส่งสินค้าของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้น ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยกระทบหลักต่อค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น บริษัทจึงได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าไว้บางส่วน ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ก็มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตาม บริษัทจึงยอมรับว่าในปีนี้ต้นทุนคงจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันจะดูแลค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุด "เราได้มีการปรับกลยุทธ์ในการที่จะเพิ่มการขนส่งในเส้นทางที่สามารถให้ผลตอบแทนได้เพิ่มมากขึ้น และจำกัดการขนส่งในเส้นทางที่มีผลตอบแทนต่ำกว่า ในขณะเดียวกันยังได้มีการซื้อสัญญาน้ำมันไว้ล่วงหน้าเพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างดีที่สุด"นายทวินโชค กล่าว

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งปิดลบ 350.09 จุด นลท.กังวลวิกฤตยูเครน

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ

ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 24,556.57 จุด ลดลง 350.09 จุด หรือ -1.41%

ทั้งนี้ นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้สั่งการให้ทหารอเมริกันที่เคลื่อนพลเข้าประจำการในยูเครนเมื่อปีที่ผ่านมา ถอนทัพและย้ายไปประจำการยังประเทศอื่นในยุโรปเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทหารรัสเซียประมาณ 100,000 นายพร้อมอาวุธล้ำสมัยตรึงกำลังตามแนวชายแดนตะวันออกของยูเครนและแนวชายแดนเหนือของเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซีย

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายวาดิม ไพรสเตโก เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศอังกฤษ เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ยูเครนอาจตัดสินใจไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) เพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามกับรัสเซีย

เน้นๆๆๆๆ

เจ๊ฟองเบียร์
แม่น้ำหนึ่ง
เจ๊นุ๊ก
ปู่คำแสน
เณรน้อย
ดุ่ย ภรัญ

สมัครเลย กระเป๋าเดียวไม่ต้องโยกเงิน รวมเร็ว จ่ายไว ทันใจ 
มีทุกหวย [pr] + ฟุต. [pr] + หวยฮานอย [pr] + รัฐบาลไทย [pr] + หวยออมสิน [pr] + หวย ธกส [pr] + ลาวพัฒนา [pr] + ลาวสตาร์ [pr]  + ลาวสามัคคี [pr] +หวยหุ้น vip [pr] 

ขายได้เลย!!!!  ไม่ต้องเปิดบิล #กำไรจุกๆ
ยุคนี้ต้องขายออนไลน์ ถึงจะรอด
#สร้างรายได้ ด้วยมือถทชือเพียงเครื่องเดียว
มานาไทยแลนด์ [pr]   รับตัวแทน dropship [pr] ไม่มีเงินทุน ก็ขายได้
หยุดการขาดทุน รายได้ไม่จำกัด อยากได้เท่าไหร่ จัดไปเลย

>>> ค่าสมัครเพียง 109.- ….. ได้อะไรบ้าง?
มานา คอลลาเจน - เรทราคาส่งตั้งแต่ชิ้นแรก 
เปิดบิลมานา mana collagen [pr] - มีคอร์สสอนขายออนไลน์ ฟรี 
เปิดบิลมานา mana collagen [pr] - ไม่ต้องเปิดบิล 
เปิดบิลมานา มานา คอลลาเจน [pr] - ไม่ต้องสต็อก
เมิดบิลมานา สมัครตัวแทนคอลลาเจน - ไม่ต้องแพ็คสินค้า ไม่ต้องส่งสินค้า มานา คอลลาเจน
เปิดบิลมานา สมัครตัวแทนคอลลาเจน - กำไรสูง มานาคอลลาเจน
เปิดบิลมานา [pr] สมัครตัวแทนคอลลาเจน - มีแม่ทีมดุแล mana collagen

ห้ามพลาด!!!! อยากขาย mana collagen  กูลต้า คอลลาเจน [pr] รับจำกัด 50 คนเท่านั้น
สนใจพิมพ์  “ สนใจ ”  หรือ ทักแชทเพจ เพื่อรับสิทธิ์ ด่วน ‼ ‼

---------------------------------------------------------
Line:@collagen
http://line.me/ti/p/@collagen [pr]
FB. https://www.facebook.com/manacollagedipeptide [pr]
www.manaok.com [pr]
www.manaextra.com [pr]
www.manathailand.page [pr]