แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Chigaru

หน้า: 1 ... 471 472 [473] 474 475 ... 484
7081
เทคนิค! เลือกบริษัทตกแต่งภายในยังไง ให้ได้งานที่ถูกใจ ไม่ทิ้งงานกลางคัน 



เพราะการสร้างบ้าน หรือซื้อบ้านสักหนึ่งหลังเป็นเรื่องใหญ่ ทุกขั้นตอนจึงมีความสำคัญ ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างรวมไปถึงการตกแต่งภายในเพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพ และได้ตามแบบที่ต้องการการเลือกช่าง เลือกผู้รับเหมาหรือบริษัทจะต้องเลือกอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ สำหรับใครที่มีแพลน กำลังหาบริษัทตกแต่งภายใน วันนี้เรามี เทคนิคการเลือกบริษัทตกแต่งภายในให้ได้งานที่ถูกใจ และไม่เสี่ยงทิ้งงานกลางคันมาฝาก

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีใบอนุญาตในการประกอบกิจการ
ในการเลือกบริษัทตกแต่งภายใน ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง ห้ามมองข้ามเด็ดขาด ซึ่งใบอนุญาตในการประกอบกิจการเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าบริษัทมีแหล่งที่ตั้งชัดเจน จัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การันตีว่างานที่ได้มีมาตรฐาน เสร็จสมบูรณ์ และไม่โดนทิ้งกลางคัน  

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบตรงเวลา
ในงานวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ต้องทำงานอย่างเป็นระบบ เรียงลำดับอย่างถูกต้องชัดเจน เพราะการสร้างบ้าน ตกแต่งบ้านมีองค์ประกอบหลายส่วน เพื่อลดการเกิดปัญหาในงานให้ได้มากที่สุด สามารถตรวจสอบพื้นที่ในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว
มีการประสานงานภายในทีมอย่างชัดเจนรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และส่งงานตรงตามกำหนดเวลา

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีความเชี่ยวชาญ
ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจะได้เปรียบเสมออย่างที่บอกไปงานตกแต่งภายในมีรายละเอียดเยอะ และอาจเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดได้เสมอ ดังนั้นบริษัทที่มีประสบการณ์มาหลาย 10 ปี มีความชำนาญ จะช่วยลดปัญหา และทำให้งานของคุณออกมาตรงตามความต้องการ สามารถตีโจทย์ของลูกค้าได้ทุกแบบ นำเสนอทางเลือกที่ดีกว่า ปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ถึงจะเข้าใจ

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่ใส่ใจทุกความต้องการลูกค้า
นักออกแบบก็ถือเป็นงานด้านบริการอย่างหนึ่ง ดังนั้นเมื่อคุณคิดจะหาบริษัทออกแบบภายใน จึงควรเลือกบริษัทที่ใส่ใจกับความต้องการของลูกค้ากล้าที่จะนำเสนอทางเลือกที่ดีกว่า ไม่ปล่อยเลยตามเลยจนเกิดปัญหา บางบริษัทรับปากทุกความต้องการของลูกค้าแต่ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง จนสุดท้ายเกิดปัญหาหน้างาน ต้องแก้ต้องรื้อ ทั้งเสียเวลา และเสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุ

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีผลงานดี รีวิวดี
บางครั้งเราจะไม่รู้ว่าบริษัทนี้ทำงานดีหรือไม่ ถ้าหากยังไม่ลงมือทำ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยได้คือรีวิว และผลงานที่ผ่านมาของบริษัทซึ่งบอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่ดีเลยทีเดียวพิจารณาจากรีวิวของผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อนหน้านี้ก็ได้ว่ามีฟีดแบคเป็นยังไงบ้าง ยิ่งผลงานที่ผ่านมาถูกใจ มีรีวิวชื่นชมเยอะๆ จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าคุณจะได้บ้านที่มีการตกแต่งที่สวยงาม ตามแบบที่อยากได้ 

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่เลือกใช้วัสดุดี มีคุณภาพ
บ้านเป็นสิ่งที่มีอายุใช้งานยาวนาน เราอยู่บ้านหลังหนึ่งหลายสินปี สำหรับเจ้าของบ้านก็อยากให้บ้านตัวเองออกมาสวย ออกมาดีที่สุด ถ้าอยู่ได้แปปๆ ฝ้าพังบ้าง ตรงนั้นแตก ตรงนี้ร้าว คงรู้สึกแย่มากแน่ๆ ซึ่งนอกจากฝีมือช่างแล้ว การเลือกวัสดุที่ใช้ก็สำคัญ การเลือกวัสดุที่ดีมีคุณภาพจะช่วยให้งานออกมาสวย คงทน ใช้งานได้อย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นต้องหาบริษัทใช้วัสดุมีคุณภาพ มีมาตรฐานการผลิต มีระบบภายในที่สมบูรณ์

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีราคาสมเหตุสมผล มีรายละเอียดแจ้งไว้ครบถ้วน
การสร้างบ้านเป็นอะไรที่งบบานปลายมากๆ หากไม่คำนวณให้ดี โดยเฉพาะการตกแต่งภายใน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องงบประมาณจึงควรเลือกบริษัทที่แจ้งรายละเอียดเอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งในส่วนค่าแรง ค่าวัสดุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่มีการเบิกยิบย่อย ที่สำคัญราคาต้องสมเหตุสมผล ดูว่าแบบที่อยากได้กับราคาที่จ่ายมันเหมาะสมหรือไม่ ถ้าราคาสูงบริษัทต้องตอบเหตุผลได้ว่าราคาสูงเพราะอะไร ความยากง่าย หรือวัสดุที่ใช้เป็นอย่างไร 

เลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีการรับประกันในตัวงาน
ถ้าจะให้ดีควรเลือกบริษัทตกแต่งภายในที่มีการรับประกันตัวงานจะดีมากๆ เพราะหากเสร็จแล้วเกิดปัญหาขึ้นมาภายหลัง งานไม่ได้คุณภาพ วัสดุไม่ได้คุณภาพ ทางบริษัทจะได้ดูแลในส่วนนี้ เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียเงินซ่อมเอง ไม่ต้องเสียเวลาหาช่างมาแก้เองด้วย 

ก่อนตัดสินใจเลือกบริษัท หรือผู้รับเหมา ควรศึกษาให้ละเอียดรอบครอบเสียก่อน เพราะขั้นตอนการตกแต่งภายในก็สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการสร้างเลย อีกทั้งการตกแต่งภายในมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะ ถ้าได้บริษัทที่มีบริการแบบครบวงจรก็จะช่วยทุ่นแรงไปได้ดูรีวิวเยอะๆ หาข้อมูลมากๆ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลังเพราะสุดท้ายแล้วบ้านคือสิ่งที่คุณต้องอยู่อาศัยทุกวัน ถ้าเกิดไม่ตรงตามแบบที่คิดไว้ขึ้นมาเอาทำใจไม่ได้เอา

หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับตกแต่งภายในที่เชื่อถือได้ มั่นใจเรื่องคุณภาพของงานRAM INTERIOR DESIGN พร้อมให้บริการ เราเป็นบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในวงการนี้มายาวนานกว่า 10 ปี มีบริการแบบครบวงจร ออกแบบ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลทุกความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ได้แบบที่ถูกใจที่สุด เลือกใช้วัสดุที่ดี มีคุณภาพตรวจสอบงานให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน ที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับเรื่องเวลา ส่งงานตรงตามกำหนดการันตรีด้วยผลงานมากมาย หมดปัญหาทิ้งงานกลางครัน มั่นใจได้แบบ 100% เต็ม

สามารถรับชมผลงานได้ที่
https://www.ramdesigndd.com/ [pr]
https://raminteriordesign.com/ [pr]
https://www.facebook.com/ramdesign.decoration [pr]
https://twitter.com/Ram29492809 [pr]
https://www.instagram.com/raminteriordesign/ [pr]

 

7082
สหราชอาณาจักรแบนทำธุรกรรมกับแบงก์ชาติรัสเซีย ลั่นคว่ำบาตร [pr]เพิ่มอีกในสัปดาห์นี้

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สหราชอาณาจักรประกาศแบนการทำธุรกรรมกับธนาคารกลางของรัสเซีย นับเป็นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดล่าสุดในการตัดสถาบันทางการเงินของรัสเซียออกจากตลาดการเงินของชาติตะวันตก

มาตรการชุดใหม่นี้ห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินของสหราชอาณาจักรทำธุรกรรมกับกระทรวงการคลังของรัสเซีย รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (SWF) ของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่า จะห้ามบริษัทรัสเซียออกหลักทรัพย์ที่โอนสิทธิ์ได้ ตลอดจนห้ามออกตราสารในตลาดเงินในสหราชอาณาจักรด้วย

นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวจะจำกัดสถาบันทางการเงินของรัสเซียเพิ่มเติม พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในข้อจำกัดทางการค้า และกีดกันไม่ให้บางธนาคารของรัสเซียเข้าถึงเงินปอนด์สเตอร์ลิง และไม่ให้สามารถทำการหักบัญชีการชำระเงินทั่วสหราชอาณาจักรได้

อนึ่ง เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรกล่าวว่าจะประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้

นายริชี ซูนัค รัฐมนตรีกระทรวงคลังอังกฤษกล่าวว่ามาตรการเหล่านี้ "แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเพื่อตอบโต้รัสเซียที่รุกรานยูเครน"

นายซูนัคกล่าวเสริมว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรัสเซียในระดับสูงสุดและตัดรัสเซียออกจากระบบการเงินสากลต่อไป ตราบใดที่วิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้ยังคงอยู่

7083
CSS ติดปีกบิน! กำไรปี 64 พุ่งแตะ [pr] 246 ลบ. บอร์ดไฟเขียวแจกปันผลระหว่างกาล 0.10 บ./หุ้น เคาะจ่าย 26 พ.ค. นี้

บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น(CSS)โชว์ผลงานปี 64 กวาดกำไรสุทธิ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,010 ล้านบาท รับอานิสงส์ธุรกิจโทรคมนาคม-เทรดดิ้ง และพลังงานคึกคัก ขณะที่บอร์ดฯ ใจป้ำอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เคาะจ่ายวันที่ 26 พ.ค. นี้ ฟากซีอีโอ "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์"ระบุแนวโน้มธุรกิจสดใส กอด Backlogกว่า 1,500 ล้านบาท พร้อม เดินหน้าลุยประมูลงานใหม่ หวังผลักดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด

นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการงวดปี 2564(สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564) บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิอยู่ 246 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 165% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 4,010 ล้านบาท

ทั้งนี้การที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตรา หุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น

โดยบริษัทฯได้กำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 10 พ.ค. และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ (การให้สิทธิได้รับเงินปันผลดังกล่าว ยังมีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 วันที่ 27 เมษายน 2565)

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และมีความมั่นคงในระยะยาว ส่วนธุรกิจบริการติดตั้ง และธุรกิจเทรดดิ้ง ยังได้รับอานิสงส์การลงทุนต่าง ๆ ทำให้ CSS

มีโอกาสได้รับงานใหม่ๆ ประกอบกับปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 1,500 ล้านบาท จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของรายได้ และกำไรสุทธิในปี 2565 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2564

 

7084
'วีมูฟ แพลตฟอร์ม' สตาร์ทอัพไทย บุกตลาดขนส่ง เปิดตัว 'WeMove' เว็บไซต์จองรถขนส่งสินค้าทั่วไทย [pr] ผู้ใช้ตั้งราคาเองได้

ประสบการณ์ใหม่สำหรับธุรกิจการขนส่ง เปิดตัว 'WeMove' เว็บไซต์จองรถขนส่งสินค้าทั่วไทย บุกตลาดขนส่ง ชูจุดแข็ง ผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า (Shipper) กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า (Carrier) สามารถตั้งราคาค่าขนส่งเองได้อย่างอิสระ ผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และน่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการระบบขนส่งสินค้าแบบครบวงจรได้อย่างคุ้มค่า มีมาตราฐาน

WeMove เรียกรถส่งของ สะดวก รวดเร็ว ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

ดร. ปิยะนุช สัมฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง วีมูฟ แพลตฟอร์ม เปิดเผยว่า 'ปัญหาของการขนส่งสินค้าของประเทศไทย ยังไม่มีเครื่องมือหรือเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง ใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในยุคของ Digital Disruption

'วีมูฟ (WeMove)' เป็นมาร์เก็ตเพลสที่ให้บริการขนส่งแบบครบวงจรบนเว็บไซต์ เชื่อมโยงผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า (Shipper) กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า (Carrier) ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย ผ่านระบบที่มีความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ เจาะกลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล'

'วีมูฟ (WeMove)' มีบริการขนส่งสินค้า 2 รูปแบบ

บริการเหมาคัน หรือ เต็มคัน (Full Truck Load) คือ บริการขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุกที่รับขนส่งสินค้าให้เฉพาะลูกค้ารายเดียวเท่านั้น โดยจะเป็นการจองรถขนส่งทุกประเภททั่วไทย เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งสินค้า
บริการฝากส่ง หรือ แบบไม่เต็มคันรถ (Shared Truck Load) คือ บริการขนส่งแบบใหม่ ยังไม่มีผู้ให้บริการในประเทศไทย โดย วีมูฟ (WeMove) เป็นผู้ให้บริการรายแรก สำหรับการบริการจองพื้นที่รถขนส่ง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ หรือส่งของรายชิ้น ด้วยบริการรับ-ส่งถึงที่ โดยไม่ต้องเหมาคัน ลดความเสียหายจากการขนส่ง และทำให้ลูกค้าส่งสินค้าราคาคุ้มค่า
บริการจัดการงานขนส่งสำหรับลูกค้าธุรกิจ หรือ Third party logistics service provider (3PL) คือ โปรแกรมบริหารจัดการขนส่งเชิงธุรกิจ พร้อมบริการพิเศษที่ตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งที่ครบวงจร เพื่อลูกค้าองค์กร ธุรกิจ SME ในการบริหารจัดการลดต้นทุน 5% พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการขนส่ง และระบบแสดงข้อมูลการขนส่ง
ไม่มีรถขนส่งสินค้าเป็นของตนเอง แต่ควบคุมคุณภาพได้

ความพิเศษของ 'วีมูฟ (WeMove)'  คือ ความหลากหลายของบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการขนส่งสินค้าของลูกค้า โดยมีรถขนส่งทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ รถกระบะ, รถบรรทุก 6 ล้อ, รถบรรทุก 10 ล้อ, รถบรรทุก 12 ล้อ, รถพ่วง และรถเทรลเลอร์ ซึ่งลูกค้าสามารถจองรถขนส่งได้ ล่วงหน้า ถึง 14 วัน ฟรีประกันภัยสินค้าทุกเที่ยวการขนส่ง

ในส่วนของค่าขนส่ง ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานแบบคิดตามระยะทาง เริ่มต้น 500 บาท สำหรับกระบะรับจ้างประเภทรถปิคอัพ หรือเลือกการตั้งราคา ตามที่ต้องการขนส่งได้

ทำไมบริการของ WeMove ถึงน่าสนใจ

จุดแตกต่างของ 'วีมูฟ (WeMove)' กับบริการขนส่งอื่นๆ คือ การตั้งราคาค่าขนส่งได้เอง ช่วยให้ลูกค้าสามารถตั้งราคาค่าขนส่งตามความชอบ หรือตามงบประมาณที่ต้องการขนส่งสินค้า โดยระบบจะดำเนินการจับคู่งาน ระหว่างผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า นอกจากนั้นสามารถติดตามสถานการณ์ขนส่งสินค้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมหลักฐานการขนส่งทุกอย่างผ่านระบบ พร้อมฟรีประกันภัยสินค้าทุกเที่ยว เริ่มต้น 50,000 บาท

7085
www.ขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้า.com
เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาส่ง
ขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถุก

7087
บริการสั่งอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม ครัวบ้านยาย ผ่าน GrabFood ได้แล้ว
- สั่งเมนูโปรดของคุณได้ง่ายๆ ผ่าน ...
http://bit.ly/3IVdkQY [pr]
* รับทำข้าวกล่องห

7088
พาณิชย์เร่งยกระดับองค์กร [pr]จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง เผยปีนี้ผ่านเกณฑ์ 8 บริษัท

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา มุ่งยกระดับการบริหารจัดการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม และสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติในระดับสากล เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความชัดเจนแก่ผู้ประกอบการในการนำผลงานเพลงไปใช้เผยแพร่ในสถานประกอบการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม และสถานบันเทิงต่างๆ และจ่ายค่าลิขสิทธิ์โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน พร้อมสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงในการมอบอำนาจองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์

กรมฯ จึงออกประกาศ เรื่อง การดำเนินการตามหลักปฏิบัติที่ดีในการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2564 เพื่อวางกรอบแนวทางและกำหนดให้องค์กรจัดเก็บแสดงเจตจำนงเข้าร่วมและแสดงหลักฐานการดำเนินการตามหลักปฏิบัติที่ดีตามความสมัครใจ ภายในเดือนมกราคมของทุกปี

โดยล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ตรวจสอบข้อมูลองค์กรจัดเก็บที่ดำเนินการตามหลักปฏิบัติที่ดีในการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง ประจำปี พ.ศ. 2565 พบมี 8 บริษัทที่ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนด ได้แก่

(1) บริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด (2) บริษัท โฟโนไรทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (3) บริษัท เอ็มพีซี มิวสิค จำกัด (4) บริษัท เอส เอส เค พับลิชชิ่ง จำกัด (5) บริษัท คนเมืองเร็คคอร์ด ๑๙๙๙ จำกัด (6) บริษัท ลิขสิทธิ์เพลงไทย จำกัด (7) บริษัท อาร์เอ็มเอส พับลิชชิ่ง จำกัด และ (8) ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิริยะ มิวซิคซาวด์ สตูดิโอ

ทั้งนี้ เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงที่สนใจใช้บริการองค์กรจัดเก็บตามข้างต้น สามารถติดต่อสอบถามและสมัครเป็นสมาชิกได้โดยตรงที่องค์กรจัดเก็บแต่ละราย และสำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะใช้งานเพลงที่องค์กรจัดเก็บดังกล่าวรับผิดชอบ สามารถตรวจสอบรายชื่อเพลงได้ที่เว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ขององค์กรจัดเก็บ หรือฐานข้อมูลเพลงที่มีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญ

7089
ดัชนี MPI ม.ค.ขยายตัวต่อเนื่อง [pr]รับอานิสงส์คลายล็อก-เปิดปท. จับตาสถานการณ์ยูเครน

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ม.ค.65 อยู่ที่ระดับ 104.42 ขยายตัว 1.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) อยู่ที่ 65.91% เพิ่มขึ้นจาก 65.24% ในเดือน ธ.ค.64

ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสถานประกอบการในภาพรวม ไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต สะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือน ม.ค.65 ขยายตัว 1.04%
การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 แบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงการเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุปสงค์ในประเทศทยอยฟื้นตัว สะท้อนได้จากอุตสาหกรรมการกลั่นปิโตรเลียมยังคงขยายตัว
ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาพลังงานและค่าขนส่ง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลต่อราคาวัตถุดิบนำเข้า
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตส่งผลบวกในเดือน ม.ค.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่

น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.21% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันเตาชนิดที่ 2 เป็นหลัก โดยเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังประชาชนได้รับวัคซีนในอัตราสูง ส่งผลให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น และการเดินทางที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการน้ำมันขนส่งเพิ่มสูงขึ้นตาม
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.76% เนื่องจากความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการนำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้ในอุปกรณ์ IOT ในวงกว้างมากขึ้น
ยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.10% จากผลิตภัณฑ์รถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดกลาง และเครื่องยนต์ดีเซล จากสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการส่งเสริมการขายของตัวแทนจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.35% จากผลิตภัณฑ์ยางแท่งเป็นหลัก โดยได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะลูกค้าหลักจากจีน อเมริกา และญี่ปุ่น ที่มีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และคิวเรือส่งสินค้าคลี่คลายมากขึ้น
เบียร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.74% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทำให้การจำหน่ายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 32.91% ขณะที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.91%
นายทองชัย กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใน 1-2 เดือนข้างหน้า ด้านเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มกลับมาขยายตัวเช่นกัน ทั้งนี้ จำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ของรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการค้าโลกอาจจะกลับมาสะดุดอีกครั้งหากสงครามยืดเยื้อ
โดยปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลต่อการผลิตในระยะต่อไปเดือน ก.พ.-เม.ย. ได้แก่

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ทั้งการผลิต คำสั่งซื้อ และความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น กมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐและการเปิดประเทศ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิคริอนไม่รุนแรง อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว
ต้นทุนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้น ทั้งในเรื่องราคาพลังงาน การขนส่ง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลาย
เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้แม้หลายประเทศจะเริ่มกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาด แต่ต้องติดตามสถานการณ์ยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมไทยขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ม.ค.65 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับตั้งแต่เดือน ก.ย.64

"เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังการกระจายวัคซีนที่ดีขึ้นและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ตลาดภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวหลังได้รับการสนับสนุนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและนโยบายเปิดประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้แม้หลายประเทศจะเริ่มกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดแต่ยังคงสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครน ซึ่งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด" นายสุริยะ กล่าว

7091
สหรัฐเผยเงินเฟ้อพุ่ง [pr] 5.2% ในเดือนม.ค. สูงสุดรอบเกือบ 40 ปี
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 5.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2526 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค.

ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2525

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ

7092
สหรัฐเตือนชาวมะกันไม่ฉีดวัคซีนเลี่ยงเดินทางไปฮ่องกง เหตุโควิดระบาดหนัก [pr]

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐได้ออกคำแนะนำล่าสุดว่า ชาวอเมริกันที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังฮ่องกง เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างมาก

CDC ได้ยกระดับการเตือนความเสี่ยงโควิด-19 สำหรับฮ่องกงจากระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด สู่ระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูง จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยระบุว่า ขณะนี้ฮ่องกงกำลังเผชิญกับยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด และรัฐบาลกำลังประสบกับความยากลำบากในการควบคุมการแพร่ระบาด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างสื่อฮ่องกงว่า รัฐบาลฮ่องกงวางแผนที่จะล็อกดาวน์เกาะฮ่องกงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า มาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่จะเป็นไปตามแผนในเดือนนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงและยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงในขณะนี้

ทั้งนี้ มาตรการปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั่วเกาะฮ่องกงซึ่งมีประชากรจำนวน 7.4 ล้านคนนั้น จะเริ่มขึ้นหลังวันที่ 17 มี.ค.

7093
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA07 [pr]

7094
ผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง [pr] เชื่อมโยง และสมดุลในเอเปค

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ๒๕๖๕ ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญหน้าและปรับตัวกับสถานการณ์โควิด-๑๙ โอกาสและภารกิจเร่งด่วนที่ไทยมองเห็น คือ การรวมตัวทางเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงความท้าทายใหม่ ๆ จากบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง การเร่งฟื้นคืนความเชื่อมโยงในภูมิภาคซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการทำให้เศรษฐกิจหลังโควิด-๑๙ เติบโตอย่างครอบคลุม ยั่งยืน และสมดุล ซึ่งสามหัวข้อนี้คือประเด็นสำคัญที่ไทยเริ่มผลักดันภายใต้หัวข้อหลักการประชุม คือ ?เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล?

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ปิดฉากลงวันนี้ โดยมีนายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคปี ๒๕๖๕ ทำหน้าที่ประธานการประชุม และนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศทำหน้าที่เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคไทย ภายใต้การประชุมระดับต่าง ๆ รวม ๒๙ การประชุม ที่ประชุมได้เริ่มขับเคลื่อนประเด็นสำคัญ ๓ ประเด็นเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในปีนี้ คือ

(๑) การทบทวนการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia- Pacific: FTAAP) โดยทุกเขตเศรษฐกิจมีความเห็นสอดคล้องกันว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เอเปคจะร่วมกันทบทวนและวางแนวทางว่า FTAAP จะช่วยให้เอเปครับมือกับความท้าทายและใช้โอกาสจากบริบทโลกแบบใหม่ รวมทั้งบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืนอย่างไร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคจะสานต่อการหารือ โดยตั้งเป้าผลลัพธ์เป็นการประกาศข้อเสนอแนะเชิงนโยบายร่วมระหว่างเอเปคและผู้นำภาคธุรกิจเอเปคจากที่ประชุมหารือร่วมภาครัฐ-ภาคเอกชนระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปค และถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ซึ่งการประชุมจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ ๑๒ (MC12) ในเดือนมิถุนายน

(๒) การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาข้อเสนอเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัยที่นำเสนอขึ้นโดยสมาชิกเอเปครวมถึงไทย ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ควรมุ่งดำเนินงานสองระยะ ในระยะสั้น ให้เร่งนำข้อริเริ่มที่จะช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางมาริเริ่มโดยเร็วที่สุด เช่น การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการเดินทางข้ามแดนเอเปค และระบบตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกันระหว่างเขตเศรษฐกิจที่พร้อมและมีความสนใจ เพื่อทำให้การตรวจเอกสารด้านสุขภาพเพื่อประกอบการเดินทางในยุคโควิด-๑๙ ในเอเปคสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยตั้งเป้าเริ่มดำเนินงานภายในช่วงกลางปี สำหรับระยะยาว วางแผนสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคที่จะช่วยรับมือความท้าทายใหม่ ๆ อย่างยั่งยืน เช่น การขยายขอบเขตบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค (APEC Business Travel Card: ABTC) ให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการนอกเหนือจากนักธุรกิจระดับสูงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในปลายปี ทั้งนี้ เอเปคจะสานต่อการหารือไปตลอดทั้งปีและเร่งดำเนินงานให้เกิดผลลัพธ์โดยเร็วที่สุด

(๓) การส่งเสริมการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาค ที่ประชุมสนับสนุนข้อเสนอของไทยเพื่อจัดทำ ?เป้าหมายกรุงเทพเรื่องโมเดลเศรษฐกิจ BCG? ซึ่งจะเป็นเอกสารระดับผู้นำเพื่อนำแนวคิดเศรษฐกิจ BCG มาขับเคลื่อนแผนงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในเอเปคอย่างเป็นระบบ โดยในที่ประชุมครั้งนี้ได้ร่วมกับหารือองค์ประกอบ ขอบเขต และโครงสร้างของเอกสารฯ และจะสานต่อการเจรจาจัดทำเอกสารฉบับนี้เพื่อให้บรรลุผลและได้รับการรับรองในที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนพฤศจิกายนต่อไป

การประชุมครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นดำเนินงานของเอเปคเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยการประชุมครั้งถัดไปคือการประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังและรองผู้ว่าการธนาคารกลางเอเปค ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ มีนาคม ในรูปแบบการประชุมทางไกล และไทยตั้งเป้าจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ พฤษภาคม ที่กรุงเทพฯ

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ

หน้า: 1 ... 471 472 [473] 474 475 ... 484