แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - hs8jai

หน้า: 1 ... 447 448 [449]
6721
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8

6722
เครื่องยืดกล้ามเนื้อ [pr] สามารถใช้ได้สำหรับภายในบ้านและภายในยิม

เครื่องยืดกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับการยืดกล้ามเนื้อก่อนการเล่นเวท เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อเรายืดหยุ่นและแข็งแรง  ถ้าเราไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนการเล่นฟิตเนส หรือกีฬาอื่นๆ อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บระหว่างการเล่นได้

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย [pr]
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 [pr] 

6723
อุตตม ชูแนวคิด 'รีสตารท์ ท่องเที่ยวไทย [pr]' ผลักดันเป็นเครื่องยนต์ฟื้นศก.อีกครั้ง

นายอุตตม สาวนายน แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย นำทีมเข้าพบนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อหาทางออกและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างอนาคตการท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน

นายอุตตม กล่าวว่า ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยก่อนเกิดปัญหาโรคโควิดระบาด ประเทศไทยเคยมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึงกว่า 3 ล้านล้านบาท แต่ปัจจุบันรายได้ดังกล่าวหายไปเกือบหมด ทำให้ผู้ประกอบการ แรงงาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้เดือดร้อนอย่างมาก ดังนั้น พรรคฯ จึงเข้ารับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อช่วยกันผลักดันให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอีกครั้ง

นายอุตตม กล่าวภายหลังการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนว่า การท่องเที่ยว คือเครื่องยนต์ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และทำได้รวดเร็วที่สุด ดังนั้นพรรคฯ จึงขอเสนอแนวคิดยุทธศาสตร์ 'รีสตารท์การท่องเที่ยว' ครอบคลุมการเยียวยา การฟื้นฟู และการพัฒนายั่งยืน โดยจะดำเนินการใช้ประโยชน์จากแนวนโยบายการตั้ง 'กองทุนสร้างอนาคต SME ไทย'

ทั้งนี้ จากงบประมาณกองทุน SME ทั้งหมด 1 แสนล้านบาท จะแบ่งเป็นการจัดตั้ง 'กองทุนสร้างอนาคตอุตสาหกรรมท่องเที่ยว' ขนาด 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้เข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพลิกฟื้นธุรกิจ ครอบคลุมผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกกลุ่มย่อย ครอบคลุมทุกสาขาทั้ง 13 สาขาอาชีพภายใต้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และไม่เฉพาะเจาะจงเพียงบางกลุ่มเท่านั้น

สำหรับกองทุนดังกล่าว จะใช้ในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวแบบครบวงจร พัฒนาขีดความสามารถ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และบุคลากรในอุตสาหกรรม รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย เห็นพ้องกับภาคเอกชนว่า ต้องเริ่มจากฐานราก ชุมชน เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว และเป็นการสร้างงานในชุมชน เพื่อไม่เกิดปัญหาแรงงานกระจุกตัวในเมืองหลวง

'ผมเห็นพ้องกับที่ประชุมว่า วันนี้วิกฤติของการท่องเที่ยว สามารถพลิกเป็นโอกาสได้ เราจึงต้องมียุทธศาสตร์รีสตารท์การท่องเที่ยว มีเป้าหมายเพิ่มขีดความสมารถให้กับผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทาน กระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ทุกภูมิภาค วันนี้ได้รับเกียรติและโอกาสจาก สทท. มารับฟัง และให้กำลังใจทุกท่าน รวมถึงได้แชร์แนวคิดหลักการจากการประชุมว่า การบรรเทาแก้ไขปัญหาระยะสั้นต้องอาศัยการหารืออย่างใกล้ชิดของภาครัฐและเอกชน เพื่อการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด มีความครอบคลุม ทั้งนี้ มองว่าวิกฤติการท่องเที่ยวถือเป็นโอกาสในตัว ซึ่งพรรคฯ ได้เสนอแนวความคิดยุทธศาสตร์รีสตาร์ทการท่องเที่ยวไทย ซึ่งต้องมีปัจจัยพร้อมทั้งความร่วมมือในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรายใหญ่ รายเล็ก ภาครัฐ เอกชน และต้องมีเครื่องมือพิเศษ คือ การเข้าถึงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาระยะยาวด้วยการจัดตั้งกองทุน ซึ่งทางทีมก็จะนำความเห็นวันนี้ไปดำเนินการต่อไป' นายอุตตม กล่าว
ด้านนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท. กล่าวว่า ปี 65 นี้จะเป็นปีแห่งการรีสตาร์ทการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยสิ่งที่จำเป็นที่สุดในขณะนี้ คือต้องดำเนินการเรื่อง Tourism Clinic เพื่อดูแลภาคการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาลืมตาอ้าปาก และฟื้นเศรษฐกิจได้

อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกต่างประสบปัญหาเรื่องโควิด แต่วันนี้ประเทศไหนเตรียมความพร้อมได้ดีกว่า โอกาสย่อมมีมากกว่า ทางภาคการท่องเที่ยวมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ขอให้ภาครัฐส่งเสริมด้วยยุทธศาสตร์ 3 เติม 2 ลด คือ 1.เติมทุน 2.เติมลูกค้า 3.เติมความรู้ และ 2 ลด คือลดต้นทุน และลดความยุ่งยาก โดยใช้ทำแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย

ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการนำเสนอให้เห็นภาพความเสียหายของภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด โดยระบุว่า ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด ประเทศไทยเคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 4 ล้านคน ขณะที่ปี 63 และปี 64 นักท่องเที่ยวหายไป 90% เหลือไม่ถึงปีละ 4 แสนคน ส่งผลกระทบกับรายได้ของคนที่อยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวประมาณ 7 ล้านคน โดยมีผู้ประกอบการประมาณ 3 ล้านคน และลูกจ้างประมาณ 4 ล้านคน

พร้อมกันนี้ ได้สะท้อนถึงปัญหาของผู้ประกอบการว่าต่างประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง และไม่มีแหล่งทุนที่จะขับเคลื่อนต่อในอนาคต รวมถึงยังมีปัญหาและอุปสรรคในการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ขณะที่แรงงานลูกจ้างภาคท่องเที่ยวที่มีอยู่ราว 4 ล้านคน ตกงานแล้วกว่า 70%

อย่างไรก็ดี ภาคเอกชนได้ให้ข้อเสนอแนะว่า หากต้องการให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจะต้องผ่อนปรนมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเข้ามาได้สะดวกขึ้น ภายใต้การควบคุมโรคระบาดที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันมาตรการที่รัฐใช้ยังเป็นอุปสรรคมาก ขณะที่หลายประเทศมีมาตรการที่ยืดหยุ่นกว่า และสามารถพลิกฟื้นการท่องเที่ยวได้แล้ว อาทิ มัลดีฟส์ ตุรกี ดูไบ เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ภาครัฐควรสนับสนุนเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยกระจายเม็ดเงินให้ถึงส่วนภูมิภาค ชุมชน เศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกทาง

'ขอบคุณทีมคุณอุตตม ที่มารับฟังปัญหาการท่องเที่ยวไทย โดยภาคเอกชนพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาการท่องเที่ยวไทย และเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่' นายชำนาญ กล่าว
นายอุตตม กล่าวภายหลังการหารือกับผู้บริหาร สทท. ว่า การมาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ในวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน ในการเร่งตกผลึกปัญหาของประเทศที่กำลังเผชิญ ประชาชนที่กำลังลำบาก เพื่อกำหนดแนวทางนโยบายของพรรค

สำหรับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลในขณะนี้ เช่น เรื่องปัญหาน้ำมัน นายอุตตม มองว่า เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีความซับซ้อน ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดูปัจจัยทั้งหมด และเลือกแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อจัดการกับปัญหานี้โดยเร็ว อย่างเรื่องน้ำมันถือเป็นต้นทุนของสินค้า และภาคบริการ หากไม่ได้รับการจัดการในเวลาและแนวทางที่เหมาะสม จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจได้

ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ แม้ว่าจะโตได้ 3-4% แต่มองว่ามีความท้าทายพอสมควรว่า ถ้าจะเป็นเช่นนั้นได้ การท่องเที่ยวจะไปได้จริงไหม เรื่องต้นทุนสินค้า จะทำให้เกิดภาวะเงินฝืด แต่ของแพงไหม ซึ่งการจะเป็นเช่นนั้น การประเมินในมหภาคจะเป็นจริงได้ต้องมีมาตรการ แผนงานที่จะทำให้เศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ ขับเคลื่อนได้จริง ส่วนประเด็นการเมืองเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล นายอุตตม มองว่า การที่จะประเมินว่าเหตุการณ์ไปอย่างไร คงไม่สามารถตอบได้หมด แต่ในส่วนของพรรคฯ ได้เร่งทำงานในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อให้มีความพร้อมหากมีการเลือกตั้งขึ้นมา ซึ่งวันนี้พรรคฯ ก็ทำงานเต็มที่

6724
อื่นๆ / 공항 근처 호텔 ถามราคาและข้อมูล
« เมื่อ: 15 2022-02-15 2022 07:%i:1644885921 »
공항 근처 호텔 [pr]

สุวรรณภูมิสวีท ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพียง 5 นาที เป็นโรงแรมที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางที่เดินทางต่อ ที่นี่ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่ยอดเยี่ยมพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกแบบบริการเต็มต้นแบบในทำเลที่ได้เปรียบแล้วก็ราคาที่มีเหตุผล โฮเต็ลของเรามีมากกว่าที่พักที่สงบเงียบหลังหรือก่อนเที่ยวบิน พวกเราภูมิใจที่เกินความมุ่งหวังของแขกของพวกเราด้วยการนำเสนอห้องพักรวมทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกที่ดูแลอย่างประณีต และบริการที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งดีเลิศจากพนักงานที่สุภาพเรียบร้อยของพวกเรา เราได้ออกแบบทุกด้านโดยคิดถึงความสะดวกสบายของคุณ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ชักชวนเข้ามาได้ตลอดเวลา และก็รับการต้อนรับจากแผนกต้อนรับที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงของพวกเรา พวกเราได้ทำให้มั่นใจว่าห้องพักพร้อมเสมอที่สามารถจะช่วยให้ท่านนอนสบายเพื่อจัดแจงสำหรับ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และก็วันหยุดที่น่าระทึกใจของคุณ

ไต่ถามบริการโรงแรมใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 공항 근처 호텔
บ้านพักใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อพาร์เม้นท์ ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ราคาไม่แพง
โฮเต็ลใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กักตัว
บังกะโลใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ sha+
ที่พักใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
อพาร์เม้นท์ ใกล้ สนามบินสุวรรณภูมิ กักบริเวณวัววิด 공항 근처 호텔
บังกะโลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มีรถยนต์รับส่งฟรี 공항 근처 호텔

6725
'กรมโรงงานฯ' จับมือ 'จุฬาฯ' ผนึกพันธมิตรภาคเอกชน [pr] จัดอบรมเพื่อพัฒนา CE Coach ที่ปรึกษาในอุตสาหกรรมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ และ สถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาฯ จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้าง CE Coach ที่ปรึกษาในอุตสาหกรรมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญในการยกระดับกระบวนการผลิตสู่ความยั่งยืนให้โรงงานทั่วประเทศ

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร "การสร้างที่ปรึกษาการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในโรงงานอุตสาหกรรม (CE Coach)" โดยท่านได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานและประกาศนียบัตรแก่ผู้ช่วยวิจัยที่เข้าร่วมโครงการ "มาตรการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน" ภายใต้ทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ตั้งแต่เมื่อปี 2564 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวดำเนินการร่วมกันระหว่าง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ และ สถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาฯ ในการจับคู่นักวิจัยมหาวิทยาลัยกับผู้ประกอบการธุรกิจระดับ SMEs เพื่อนำร่องสร้างต้นแบบโรงงานในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนด้านพลาสติกและด้านฟอกหนัง

ส่วนงานนี้จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนให้แก่บุคคลทั่วไป โดยผู้สนใจเข้ารับการอบรมมีทั้งจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ส่วนวิทยากรประกอบด้วย ดร.ภัสราพร พลับเจริญสุข หัวหน้าโครงการฯ ศาสตราจารย์ ดร.หทัยกานต์ มนัสปิยะ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ (PETROMAT) ในฐานะหัวหน้าโครงการย่อยที่ 1 "มาตรการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมพลาสติกระดับ SMEs" และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ศิรเลิศมุกุล อาจารย์สถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการย่อยที่ 2 "มาตรการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมฟอกหนังระดับ SMEs" นอกจากนี้ยังมีวิทยากรผู้เป็นนักวิจัยในเครือข่ายของศูนย์ PETROMAT มาร่วมบรรยายและนำเสนอวีดิทัศน์เยี่ยมชมโรงงานต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนในกระบวนการผลิต การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างแผนธุรกิจด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งนี้การอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวจัดขึ้นเสร็จสิ้นไปแล้วในช่วงระหว่างวันที่ 19 - 25 มกราคม 2565 ณ โรงแรมแมนดาริน แมนเนจ บายเซ็นเตอร์ พ้อยท์ กรุงเทพฯ

สำหรับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นจะมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรรวมทั้งพลาสติกให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการจัดการในรูปแบบหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถซ่อมแซมเมื่อชำรุดเสียหายและนำไปรีไซเคิลได้เมื่อหมดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ข้อมูลจากสถาบันพลาสติก พ.ศ. 2562 ระบุว่าประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกประมาณ 560,000 ล้านบาท และมีมูลค่าของอุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศมากถึงประมาณ 1,100,000 ล้านบาท เท่ากับร้อยละ 7.2 ของ GDP ของไทย โดยส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจระดับ SMEs ขณะที่ขยะพลาสติกก็กำลังเป็นปัญหาไปทั่วโลก ดังนั้น โครงการนี้จึงตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไปสู่ความยั่งยืนทั้งในแง่สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ โดยในปีที่ผ่านมาได้สร้างต้นแบบโรงงานด้านพลาสติกซึ่งใกล้สำเร็จแล้วจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง และในปีนี้เป็นการขยายผลของโครงการฯ โดยมีการพัฒนา CE Coach เพื่อให้มีความพร้อมในการเผยแพร่ต่อองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งนี้ตั้งเป้า CE Coach ทั้งหมด 20 คน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการจัดทำแผนธุรกิจร่วมกับโรงงานที่ผ่านการคัดเลือกให้ร่วมโครงการฯ จำนวนอย่างน้อย 150 แห่งในปีถัดไป

โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญเพื่อนำประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนตามนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของภาครัฐ อันจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องภายในประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยไปสู่ความยั่งยืน

6726
ช่างประตูม้วนกรุงเทพ รับติดตั้งประตูม้วนเหล็ก ประตูม้วนสแตนเลสhttps://www.facebook.com/BKKSHUTTER55 [pr]ทั้งแบบโปร่ง แบบทึบ แบบครึ่งโปร่งครึ่งทึบ มีระบบประตูม้วนมือดึง ประตูม้วนรอกโซ่ ประตูม้วนมอเตอร์ไฟฟ้า-รีโมท ลูกค้าเลือกใช้ประตูม้วนได้ทุกแบบตามงบประมาณและความเหมาะสมกับธุรกิจและสถานที่ เรามีประสบการณ์ติดตั้งประตูม้วนมาแล้วมากมายสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าได้
https://www.facebook.com/BKKSHUTTER55 [pr]รับติดตั้งประตูม้วนรุ่นใหม่ ติดตั้งได้ทุกแบบ ประตูขึ้นลงเบาแรงเปิดปิดง่าย เสียงเงียบไม่ดังหนวกหูเหมือนรุ่นเก่า แข็งแรงทนทานสีสันสวยกว่ารุ่นเก่าๆ ที่เคยเห็น ทนความร้อนจากแสงแดด ทนน้ำฝน ใช้งานแล้วสบายใจหายห่วง
https://www.facebook.com/BKKSHUTTER55 [pr]งานไวไม่เรื่องมาก งานดีฝีมือเยี่ยม รับประกันงานติดตั้ง 2 ปี นัดดูหน้างาน เรียกช่างประตูม้วนกรุงเทพร้านประตูม้วนกรุงเทพ
99/482 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวางกรุงเทพฯ 10310
Hotline : 063-225-0968 [pr]
ID line : bkk482 [pr]
กดเพิ่มเพื่อน : ไลน์แอด [pr]
bkkshutter@gmail.comสินค้าและบริการรับติดตั้งประตูม้วน แบบทึบ, แบบโปร่ง, แบบบานโปร่งบนบานทึบล่าง ความสูงขนาดไหนและหน้ากว้างเท่าไรจัดให้ได้ตามสั่งงานประกอบติดตั้งประตูม้วนใช้อะไหล่เกรด A แข็งแรงทนทานใช้งานคุ้ม ช่างประตูม้วนกรุงเทพ มีประสบการณ์รู้จริง เป็นงานบริการไว
  • ติดตั้งประตูม้วนแบบสปริงมือดึงขึ้น-ลง แบบรอกโซ่ แบบมอเตอร์ไฟฟ้า-รีโมท สำหรับตึกแถวร้านค้า แผงในห้างแผงในตลาดสด ลูกค้าเลือกใบประตูม้วนและใบช่องลม ใบลอนเล็กใบประตูม้วนลอนใหญ่ ใบประตูม้วนเหล็กเคลือบสีและใบประตูม้วนสแตนเลสได้

  • ติดตั้งประตูม้วนแบบโปร่งทั้งชนิดเหล็กชุบซิงค์และชนิดสแตนเลส มีลายให้ลูกค้าเลือกตามชอบ ลายตาข่าย ลายตุ๊กตา ลายวงแหวน ลายข้าวหลามตัด ลายอิฐตรง ลายก่ออิฐ ติดตั้งได้ทั้งระบบสปริงมือดึง ระบบรอกโซ่ ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า-รีโมท สั่งทำได้ทั้งแบบโปร่งทั้งบาน หรือครึ่งโปร่งครึ่งทึบตามต้องการ สำหรับธนาคาร ร้านทอง โชว์รูมในห้างสรรพสินค้า

  • รับติดตั้งประตูม้วนโรงงาน ติดตั้งประตูม้วนโกดัง-คลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์ ไม่จำกัดความสูงและความกว้างบานประตูม้วน ติดตั้งด่วนในพื้นที่ ช่างทำประตูม้วน ประเมินพื้นที่ เช็คราคาหน้างานฟรี
  • รับดัดแปลงเปลี่ยนประตูม้วนจากระบบมือดึงธรรมดา เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามีรีโมท
ประตูม้วนเสียเรารับซ่อมประตูม้วน เปลี่ยนอะไหล่ประตูม้วน เปลี่ยนกุญแจล็อคประตูม้วน ใบประตูม้วน อุปกรณ์ประกอบประตูม้วนไฟฟ้า ชุดมอเตอร์ประตูม้วน ลูกปืนตุ๊กตา รีโมทคอนโทรล ช่างประตูม้วนแนะนำอะไหล่และการซ่อมให้ข้อมูลกับลูกค้าเป็นที่เข้าใจ ซ่อมตรงจุดที่เสีย สบายใจไม่โดนฟันราคาใช้ดีแล้วช่วยบอกต่อพื้นที่บริการ ดินแดง เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตบางเขน เขตสะพานใหม่ เขตหลักสี่ เขตพญาไท เขตจตุจักร อนุสาวรีย์ เขตปทุมวัน เขตราชเทวี เขตสุทธิสาร เขตลาดพร้าว แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน เขตสายไหม เขตมีนบุรี พระราม2 บางบอนแคตตาล็อก https://www.facebook.com/BKKSHUTTER55 [pr]
https://lin.ee/0MqZrkx [pr]
https://www.facebook.com/BKKSHUTTER56 [pr]


https://www.facebook.com/BKKSHUTTER55 [pr]

6727
ธปท.เตรียมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้เพิ่มขึ้น [pr]จากเดิม 1.7% หลังต้นปีพุ่งแรง

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปี 65 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1.7% ตามราคาน้ำมันและราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในรอบเดือน มี.ค. รวมทั้งทบทวนประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปี 65 ซึ่งได้ปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกที่ขยายตัวดี แต่ก็คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้แตกต่างจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญมากนัก

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 65 มีแนวโน้มสูงกว่ากรอบเป้าหมายในช่วงแรกของปีนี้ และมีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงหลังของปี โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ณ เดือน ม.ค.ปรับเพิ่มมาที่ 3.23% จาก (1) ราคาพลังงานเป็นสำคัญโดยราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นถึงเกือบร้อยละ 30 เทียบกับปีที่แล้ว และ (2) อาหารสด เช่น เนื้อหมู โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาเป็นการปรับขึ้นราคาสินค้าเฉพาะบางหมวด ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นในหลาย ๆ สินค้าพร้อมกันเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ มีสินค้าจำนวนมากเกือบ 200 รายการในตะกร้าเงินเฟ้อที่ราคาที่คงที่หรือลดลง

นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. ระบุว่า ที่ผ่านมาเป็นการปรับขึ้นราคาสินค้าเฉพาะบางหมวด ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นในหลาย ๆ สินค้าพร้อมกันเป็นวงกว้าง และไม่เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาแบบยกแผง ซึ่งมีสินค้าจำนวนมากเกือบ 200 รายการในตะกร้าเงินเฟ้อที่ราคาที่คงที่หรือลดลง เช่น ข้าว และ ค่าเล่าเรียน

สำหรับเงินเฟ้อในระยะต่อไป แนวโน้มของราคาน้ำมันรวมถึงการคลี่คลายของปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ตู้คอนแทนเนอร์ และเนื้อหมู จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงได้ อีกทั้งกำลังซื้อที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์อยู่ในระดับต่ำ

นายสุรัช กล่าวว่า ธปท.คาดว่าราคาน้ำมันจะเริ่มลดลงได้ในช่วงไตรมาส 2/65 แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดโลก ที่ต้องติดตาม โดยไทยก็ยังมีกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันอยู่ ขณะที่ราคาเนื้อหมูคาดว่าจะปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี โดยใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 10 เดือนสถานการณ์ปริมาณหมูที่ลดลงจึงจะเริ่มคลี่คลาย

ทั้งนี้ ธปท.ยืนยันว่าการขึ้นราคาของสินค้าบางรายการตั้งแต่ต้นปี เช่น ราคาน้ำมันขายปลีก อาหารสด อาหารนอกบ้าน เครื่องปรุงอาหาร เกิดจากปัจจัยเฉพาะของหมวดสินค้านั้นๆ เช่น ปัญหาในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และอุปทานหมูที่ลดลงจากโรคระบาด ขณะที่เงินเฟ้อเป็นการวัดการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการโดยรวม ครอบคลุมสินค้ามากกว่า 400 รายการ และเป็นการเฉลี่ยราคาไปตามสัดส่วนของรายจ่ายที่ผู้บริโภคใช้ซื้อสินค้าแต่ละรายการ

โดยราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของผู้บริโภค แต่ผลกระทบดังกล่าวจะมีมากหรือน้อยส่วนหนึ่งขึ้นกับรายได้ของผู้บริโภคแต่ละคน รวมถึงลักษณะสินค้าและปริมาณที่บริโภคว่าเป็นสินค้าที่ราคาแพงขึ้นมากหรือไม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ควรต้องเฝ้าระวัง คือ ราคาเพิ่มขึ้นในหลายหมวดสินค้าพร้อม ๆ กัน ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยาวนาน และ ราคาที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อพฤติกรรมการตั้งราคาและมุมมองอัตราเงินเฟ้อในอนาคต

ปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณการขึ้นราคาในหลายหมวดสินค้าพร้อม ๆ กัน โดยข้อมูลล่าสุดเดือน ม.ค.65 มีการเพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงและเนื้อสัตว์เป็นหลัก ขณะที่สินค้าและบริการอีก 188 รายการจาก 430 รายการมีราคาทรงตัวหรือลดลง แต่ยังต้องติดตามต่อเนื่องว่าจะมีการเพิ่มขึ้นในสินค้าประเภทใดอีกบ้างในระยะต่อไป

"เงินเฟ้อคือการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่อเนื่อง เป็นวงกว้าง แต่ตอนนี้ ของแพงบางสินค้า แล้วหยุดอยู่กับที่ จึงอยากให้เข้าใจว่า เงินเฟ้อ อาจจะต่างกับ ของแพง"นายสุรัช กล่าว
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3%

ธปท. จะติดตามภาวะและแนวโน้มเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นโยบายการเงินยังให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว จะทำให้เกิดการจ้างงาน ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบางจากผลกระทบของ COVID-19 ที่ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นขณะที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ นอกจากนี้ ธปท. ได้ออกมาตรการการเงินรูปแบบต่าง ๆ เพื่อลดภาระหนี้ แก้หนี้เดิม เติมเงินใหม่ให้กับประชาชน เพื่อให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องในระยะข้างหน้า

6728
ภาวะตลาดเงินบาท [pr]: เปิดตลาดเช้านี้ 32.78 อ่อนค่าตามตลาดโลกหลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.78 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหลังตัวเลขเงินเฟ้อของ สหรัฐสูงกว่าตลาดคาดการณ์ จึงเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 0.50% ในเดือน มี.ค.65 และยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนออกมาระบุว่าอยากเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1% ในเดือน ก.ค.65 นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุน จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield)

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เร็วมากตามทิศทางตลาดโลก หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด นอกจากนี้ยังต้องจับ ตาดู Fund Flow ที่ไหลเข้าก่อนหน้านี้ด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (10 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.43075% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.49549%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.09 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 115.77 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1392 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1445 ดอลลาร์/ยูโรเยน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.723 บาท/
ดอลลาร์
ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่จะมีการพิจารณาแนวปฏิบัติ หรือการกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น
ในช่วงวาเลนไทน์ และเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากความกังวลต่อยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่กลับมาเพิ่มขึ้นเป็นระดับหมื่นคนติดต่อกันหลายวัน
โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,242 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 8,268 ราย และมีผู้เสียชีวิต 23 ราย
กระทรวงการคลัง เผยโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเติมวันแรกมีผู้ลงทะเบียนแล้ว
ประมาณ 7.7 แสนราย ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้วจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2565
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (10 ก.
พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือน ม.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือน ธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 223,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน มี.ค.หลังสหรัฐเปิดเผยตัว
เลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 2.0% เมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ
พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ อังกฤษจะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564
รวมถึงดุลการค้าเดือน ธ.ค.และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค., มหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.
ของสหรัฐ

6729
'ไบแนนซ์' ทุ่ม 200 ล้านดอลล์ซื้อ 'ฟอร์บส์' ตำนานสื่ออายุ 100 ปีของสหรัฐ

ไบแนนซ์ (Binance) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี [pr]รายใหญ่ที่สุดในโลก จะทุ่มเงินทุน 200 ล้านดอลลาร์เข้าซื้อกิจการฟอร์บส์ (Forbes) ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์นิตยสารและสื่อดิจิทัลของสหรัฐที่มีอายุยาวนานถึง 104 ปี

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เม็ดเงินทุนดังกล่าวของไบแนนซ์จะช่วยให้ฟอร์บส์สามารถเดินหน้าตามแผนการที่จะควบรวมกิจการผ่านบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการควบรวมกิจการ (Special Purpose Acquisition Company) หรือ SPAC ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

การรุกซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งผลให้ไบแนนซ์กลายเป็น 1 ใน 2 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของฟอร์บส์ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐภายใต้สัญลักษณ์ 'FRBS' นอกจากนี้ ไบแนนซ์จะได้โควตาในคณะกรรมการบริหาร 2 ตำแหน่งจากทั้งหมด 9 ตำแหน่งในฟอร์บส์ด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีที่เข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจจริงมากขึ้น โดยที่ผ่านมานั้น อุตสาหกรรมคริปโทฯ มีมูลค่าพุ่งขึ้นและสร้างกลุ่มเศรษฐีใหม่ท่ามกลางความสนใจทั่วโลกในสินทรัพย์ดิจิทัล

สำหรับฟอร์บส์นั้นก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 100 ปีแล้วโดยปู่ของนายสตีฟ ฟอร์บส์ บรรณาธิการบริหารและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2 สมัย โดยฟอร์บส์ได้ขายหุ้น 95% ให้กับบริษัทอินทิเกรเท็ด เวล มีเดีย (Integrated Whale Media) ของฮ่องกงเมื่อปี 2557 คิดเป็นมูลค่า 475 ล้านดอลลาร์

6730
มีท อวตาร (Meat Avatar) จับมือ มอลลี่ อัลลี่ (Molly Ally) เปิดตัวไอศกรีมนมจากพืช Plant-based [pr] 3 รสชาติ ภายใต้แบรนด์ "มาทาน (Matan)" เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เล็งสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง

บริษัท มีท อวตาร จำกัด (Meat Avatar) ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช จับมือ มอลลี่ อัลลี่ จำกัด (Molly Ally) ร้านไอศกรีมสุขภาพ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ รุกตลาดพร้อมทาน (Ready to eat) ภายใต้แบรนด์มาทาน (Matan) ด้วยแนวคิด "อร่อยได้ไม่รู้สึกผิด" เปิดตัวไอศกรีม Plant-based 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ ชาไทย (Tea rak) , ดาร์คช็อกโกแลต (Angry Chocolate) , มัทฉะ (Moody Greentea) จุดเด่นที่ให้แคลฯต่ำ น้ำตาลน้อย ไม่มีส่วนผสมของนมวัว หรือ ไข่ไก่ และยัง 0% Cholesterol เอาใจสายสุขภาพ ตีตลาด วีแกน, มังสวิรัติ, Plant-based และ Flexitarian พร้อมขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มแพ้แลคโตส เพื่อเพิ่มทางเลือกเข้าถึงสุขภาพที่ดีขึ้น โดยคาดว่าไอศกรีมมาทานจะสามารถสร้างยอดขายระหว่างแบรนด์เติบโตขึ้น ได้

นายวรุตม์ จันทร์โพธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มีท อวตาร จำกัด (Co-Founder Meat Avatar) เปิดเผยว่า "มีท อวตาร" (Meat Avatar) ผู้นำผลิตภัณฑ์เนื้อจำแลงที่ผลิตจากพืช (Plant-based Meat) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจต่อสุขภาพของตัวเองและได้คุณค่าทางโภชนาการที่เทียบเท่าการบริโภคเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด อีกทั้งยังตระหนักถึงการผลิตความอร่อยแบบพร้อมเสิร์ฟในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ จึงได้ขยายไลน์สินค้าผ่านการจับมือกับ มอลลี่ อัลลี่ (Molly Ally) เปิดตัว "ไอศกรีม Plant-based" ภายใต้แบรนด์มาทาน (Matan) ที่ดีต่อสุขภาพ ให้แคลอรี่ต่ำ ดรรชนีน้ำตาลน้อยกว่าไอศครีมธรรมดาถึง 3 เท่า (จากน้ำตาลช่อดอกมะพร้าว 100%) ปราศจาก Cholesterol แต่ยังคงความรู้สึกสดชื่นฟินเวอร์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคเจนซี (Gen Z) เจนวาย (Gen Y) ที่มองหาความสะดวก อร่อย และได้สุขภาพ มีทั้งหมด 3 รสชาติใหม่ คือ Tea rak ไอศกรีมของ คนรัก (ชาไทย) เน้นความหอมเหมือนใบชาที่ผ่านการต้มอย่างพิถีพิถัน , Angry Chocolate ระเบิดความโกรธของดาร์คช็อกโกแลตเข้มข้น ลงในไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมแทบจะเหมือนเอาช็อคโกแลตแท่งมาปั่นเป็นไอศกรีม , Moody Greentea ไอศกรีมผสมมัทฉะเข้มข้นนำเข้าจากญี่ปุ่นแท้ๆ เหวี่ยงอารมณ์เหมือนไม่ได้กินอยู่เมืองไทย

"ไอศกรีมมาทาน (Matan)" ถือเป็นสินค้าน้องใหม่ในตลาด Plant-based Food ที่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยเนื้อสัมผัสแบบครีมมี (Creamy) และรสสัมผัสแบบเข้มข้นไม่ต่างจากการใช้นมวัวเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งยังไม่พบคู่แข่งทางตลาดมากนัก แม้จะพบมูลค่าทางการตลาดของ Plant-based Milk สูงถึง 16,000 - 17,000 ล้านบาท (ข้อมูลจากแบรนด์โทฟุซัง 2564) จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค รวมถึงขยายสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีอาการแพ้แลคโตส เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคในการเข้าถึงสุขภาพที่ดีได้มากขึ้น ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยต่อยอดแตกไลน์สินค้าสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการเข้าถึงฐานลูกค้าระหว่างกันของ 2 แบรนด์ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างยอดขายระหว่างแบรนด์เติบโตขึ้นอีกด้วย

สำหรับความโดดเด่นของไอศกรีมนม Plant-based เราเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โปรตีนในนมจากพืช ส่วนรสชาติความหวานมาจากน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวที่ไม่กระทบต่อน้ำตาลในเลือด 0% Cholesterol และเจลาโต้สไตล์อิตาเลี่ยนที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัวและไข่ไก่ เหมาะกับคนรักสุขภาพ รวมถึงกลุ่มผู้ที่ทานอาหาร วีแกน ,มังสวิรัติ ,Plant-based และ Flexitarian ไอศกรีม Plant-based ก็ตอบโจทย์สำหรับคนกลุ่มนี้

นายวรุตม์ ยังกล่าวต่ออีกว่า การรุกตลาด Ready to Eat ในครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวแบรนด์ลูกใหม่ในนาม "มาทาน (Matan)" ภายใต้แนวคิด "อร่อยได้ไม่รู้สึกผิด" ซึ่งผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอาหารทานง่ายๆ เช่น ขนมขบเคี้ยว ของหวาน เครื่องปรุง และสินค้าพร้อมทาน นอกจาก Molly Ally แล้ว บริษัท มีท อวตาร จำกัด ยังมีร่วมมือกับแบรนด์ร้านอาหารหลากหลาย อาทิเช่น Salad Factory ทำน้ำสลัด Plant-based 100% เป็นต้น กลยุทธ์ของเราเป็นการรวมตัวกันของแบรนด์ต่างๆ เพื่อนำความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายมาเสริมซึ่งกันและกัน เกิดเป็นนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตออกสู่ตลาดต่อไป

สามารถหาซื้อไอศกรีม Plant-based ได้ก่อนใครในช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ตอนนี้ที่ facebook Meat Avatar หรือ Line @MeatAvatar และในช่วงเดือนมีนาคม 2565 จะเริ่มวางจำหน่ายในซุเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ,ร้านอาหาร และร้านสุขภาพทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-862-3331

 

หน้า: 1 ... 447 448 [449]