แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Chanapot

หน้า: 1 ... 111 112 [113] 114
1681
KERRY ผนึกกำลังกับ CRC เขย่าวงการโลจิสติกส์ [pr] เปิดบริการใหม่ ส่งด่วน "Kerry XL" สำหรับสินค้าขนาดใหญ่ ตอกย้ำขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของไทย

KERRY ผนึกกำลังกับ CRC เขย่าวงการโลจิสติกส์ เปิดบริการใหม่ ส่งด่วน 
CRC เบอร์หนึ่งค้าปลีกของไทยประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ Kerry เบอร์หนึ่งธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนของไทย เปิดตัวบริการส่งด่วน Kerry XL สำหรับสินค้าขนาดใหญ่ โดยเปิดให้บริการกับกลุ่มคู่ค้าและลูกค้าของ เซ็นทรัล รีเทล เป็นกลุ่มแรก เพื่อรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ CRC และมอบประสบการณ์ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้ บวกกับมาตรฐานการขนส่งด่วนภายใต้รูปแบบ Hub-and-Spoke ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Kerry จะยิ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย ที่ไม่ต้องการรอรอบการขนส่งเป็นเวลานาน ที่มีค่าบริการสูง และไม่สามารถติดตามสถานะการขนส่งได้ โดยผู้ใช้บริการ Kerry XL จะยังได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจาก Kerry เช่น การสะสมคะแนน บริการเก็บเงินปลายทาง ประกันพัสดุ ไปจนถึงบริการประกอบสินค้า ติดตั้งและการเปลี่ยนสินค้าได้อีกด้วย บริการนี้จะทำให้ลูกค้าทุกคนที่สั่งสินค้าขนาดใหญ่ จะได้รับสินค้าในเวลาที่รวดเร็วขึ้น และมีระบบที่ตรวจสอบสถานะระหว่างทางได้ และจะช่วยบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า " เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าคนไทยชอบการซื้อสินค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก และยังชื่นชอบที่จะซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่ เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, วัสดุก่อสร้าง และ อื่น ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ แต่บริการขนส่งไม่สะดวกและซับซ้อนจนเกินไป เราจึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจของบริการใหม่นี้ รวมถึงเรายังพบอีกว่าในกลุ่มผู้ขายสินค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งทาง Social Media และ E-Commerce ยังมีความต้องการบริการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อีกจำนวนมาก เราจึงมั่นใจว่าบริการใหม่ Kerry XL จะตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างตรงจุด"

Kerry อยู่ในอุตสาหกรรมการจัดส่งพัสดุด่วนมากว่า 16 ปี เรามั่นใจว่าการร่วมมือกับเซ็นทรัล รีเทล จะเป็นการผนวกความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย และร่วมสร้างประสบการณ์แบบเหนือระดับให้กับลูกค้าของเราทุกคน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือ คาดการณ์ได้ ติดตามได้ และเข้าถึงการบริการได้ง่ายขึ้น เราเชื่อว่าการผนึกกำลังกันของสองยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความสำเร็จและสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดย Kerry เองก็มีการจัดการเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง E-Commerce และร้านค้าออนไลน์ บนโซเชียลมีเดีย ในขณะที่ เซ็นทรัล รีเทล เองก็มีแบรนด์ที่หลากหลายเป็นจำนวนมาก ที่รองรับความต้องการซื้อและขายสินค้าขนาดใหญ่ของคู่ค้าและลูกค้า

นายอเล็กซ์ อึ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า "ประเทศไทยยังไม่มีบริการที่รองรับการส่งสินค้าขนาดใหญ่ในรูปแบบนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน การบริการจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตมากกว่าของไทยมาก Kerry จึงมองเห็นโอกาสที่จะบุกเบิกบริการใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนที่เราเคยเป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการส่งพัสดุด่วนเป็นรายแรกของประเทศ และเป็นธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนของไทยที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นเจ้าแรก"

นายไท จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า " เซ็นทรัล รีเทล มีจุดมุ่งหมายที่จะดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เราต้องเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับระบบโลจิสติกส์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าที่มากขึ้น โดยเฉพาะการส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ การจับมือกับ Kerry ครั้งนี้จะทำให้คู่ค้าและลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น และเมื่อผนวกกับจุดแข็งของ Kerry ที่มี Hub-and-Spoke ที่เป็นเอกลักษณ์และมีมาตรฐานสูง การร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งในการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์

ของเราที่จะยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลของ เซ็นทรัล รีเทล และเรายังให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่จะต้องเติบโตไปด้วยกันแบบระยะยาว นี่จึงเป็นอีกตัวอย่างนึงของการร่วมมือทางธุรกิจเพื่อต่อยอดการเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคตภายใต้กลยุทธ์ CRC Retailligence อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล รีเทล จะยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาธุรกิจของเรา พร้อมมองหาโอกาสและช่องทางใหม่ ๆ เพื่อมาเสริมทุกองค์ประกอบของ Ecosystem ให้ดีและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับคู่ค้าและลูกค้าของเรา"

1682
กรมบัญชีกลาง เพิ่มความคล่องตัวจัดซื้อจัดจ้าง [pr]วงเงินไม่เกิน 100 ลบ. เร่งเบิกจ่ายงบฯ

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายในภาพรวมไม่น้อยกว่า 93% การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำไม่น้อยกว่า 98% การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 75% และการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวม 100%

ดังนั้น เพื่อให้การเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณเกิดความคล่องตัว รวดเร็ว และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี อันจะทำให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

การเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้าง

วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาท ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ที่จะให้มีการเผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการหรือไม่ก็ได้
การเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้าง

การซื้อการจ้างด้วยวิธี e-bidding วงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างสำหรับการซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ
การซื้อการจ้างด้วยวิธี e-bidding วงเงินเกิน 100,000,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ประกาศ และเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ
การจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ประกาศ และเอกสารการจ้าง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ
"การกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างไม่เกิน 100,000,000 บาท กำหนดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้อย่างคล่องตัว และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น" น.ส.กุลยา ระบุ

1683
[pr]

BINANCE ซื้อขายคริปโตในไม่กี่นาที ขั้นตอนการสมัครแบบละเอียด 2022 ง่ายๆ

https://วิธีสมัครไบแนนซ์.com/ [pr]

แบบบัญชี Binance

INDIVIDUAL ACCOUNT
- เข้าสู่เว็บไซต์ Binance.com
- ลงทะเบียนบัญชีบุคคล
- กรอกข้อมูลสำหรับเปิดบัญชี
- รอรับอีเมลยืนยันการสมัคร
- อัปโหลดรูปภาพของเอกสารประจำตัวคุณ
- รอการอนุมัติการยืนยัน
- เริ่มการเทรด

BINANCE DEMO
- เข้าสู่เว็บไซต์ Binance.com
- ลงทะเบียนบัญชีทดลอง
- กรอกข้อมูลของคุณ
- รอรับอีเมลยืนยันการสมัคร
- อัปโหลดรูปภาพของเอกสารของคุณ
- รอการอนุมัติการยืนยัน
- เริ่มการเทรด

CORPORATE ACCOUNT
- เข้าสู่เว็บไซต์ Binance.com
- ลงทะเบียนบัญชีองค์กร
- กรอกข้อมูลให้ครบทุกช่อง
- รอรับอีเมลยืนยันการสมัคร
- อัปโหลดรูปภาพของเอกสาร
- รอการอนุมัติการยืนยัน
- เริ่มการเทรด

1684
เว่ยป๋อ-โต่วอินเร่งลบโพสต์นับหมื่น ลงดาบชาวเน็ตด่านักกีฬาจีน [pr]

เว่ยป๋อ (Weibo) และโต่วอิน (Douyin) แพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ของจีน เร่งลบโพสต์บนโซเชียลมีเดียหลายหมื่นโพสต์ ฐานใช้ข้อความสบประมาทนักกีฬาและปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับโอลิมปิกฤดูหนาว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. เว่ยป๋อได้ลงโทษบัญชีผู้ใช้งานกว่า 2,300 บัญชี และพบโพสต์ที่ไม่เหมาะสมกว่า 73,000 โพสต์ ซึ่งมีการสบประมาทนักกีฬาหรือโพสต์เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

ด้านโต่วอินได้ลบวิดีโอหรือการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สุภาพไปถึง 6,780 รายการ และแบนบัญชีผู้ใช้งานถึง 331 บัญชี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังชาวเน็ตจีนถล่มโจมตี "จู อี้" นักสเกตลีลาหญิงที่ยอมสละสัญชาติสหรัฐมาเป็นตัวแทนนักกีฬาให้กับจีน หลังพลาดหกล้มในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง

เว่ยป๋อกล่าวว่า "การแข่งขันกีฬาต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ แต่ผู้ที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาตินั้นคือฮีโร่ตัวจริง แพลตฟอร์มของเราเรียกร้องให้ทุกคนหยุดการต่อว่าโจมตีนักกีฬา เพียงเพราะเกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันโดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ"

อนึ่ง หน่วยงานจีนได้ยกระดับความเข้มงวดในการเซนเซอร์คอนเทนต์ที่ละเมิด "คุณค่าหลักแบบสังคมนิยม" โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จีนได้สั่งการให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งลงดาบผู้ที่ปล่อยข่าวลือบนโลกออนไลน์หรือโพสต์ที่มีข้อความหยาบคาย

1685
ทำไม? โรคหอบหืด อาจร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

รู้ไหมคะว่าโรคภูมิแพ้เป็นสาเหตุหนี่งที่ทำให้เกิดโรคร้ายได้เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือโรคหอบหืด ซึ่งผู้ที่เป็น มักมีอาการจาม คัดจมูก คันตา แสบตา คันคอ มีน้ำมูกใส จะทำให้เกิดโรคหอบหืดสูงมาก 

อาการของโรคหอบหืด
-ผู้ป่วยบางคนอาจจะไม่มีอาการหอบ แต่มักมีอาการไอเรื้อรัง เช่น ไอติดต่อกัน 2 – 3 สัปดาห์
-หายใจมีเสียงหวีด เพราะเกิดการอักเสบในหลอดลม ทำให้หลอดลมตีบ
-เหนื่อยหอบ แน่นหน้าออก หายใจไม่สะดวก 

-หากอาการรุนแรงจะทำให้หายใจไม่ออก ส่งผลให้หมดสติและเสียชีวิตได้ในที่สุด 
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด 

การดูแลร่างกายอย่างไรไม่ให้เป็นโรคหอบหืด
-หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เพราะหากปล่อยให้เป็นโรคภูมิแพ้บ่อยๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืด
-พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด งดสารเสพติดทุกชนิด 
-รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในร่างกาย 
และที่สำคัญอย่างลืมให้ Balance UCore [pr] เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย บอกลา อาการเช่น หอบหืด ไซนัส ไมเกรนได้ในตัวเลยค่ะ

BALANCE UCore (BLU)
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
#โปรโมชั่นพิเศษ! 2กระปุก แถม1 กระปุกฟรี 
ส่งฟรีเคอรี่ มีบริการเก็บเงินปลายทาง
#ของแท้จากบริษัทโดยตรง
#สอบถาม LINE: @balances

1687
เคทีซีปลื้มขึ้นทำเนียบ The Sustainability Yearbook 2022 จาก S&P Global ตอกย้ำเจตนารมณ์ผู้นำธุรกิจการเงินที่ยั่งยืน [pr]

นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "เคทีซีได้รับเลือกให้เข้าอยู่ในทำเนียบ "The Sustainability Yearbook 2022" โดยเป็นสมาชิกรายเดียวในประเทศไทยของกลุ่มอุตสาหกรรม Diversified Financial Services and Capital Markets ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและมุ่งเน้นให้บริษัทฯ เติบโตอย่างสมดุล ระหว่างการมีผลประกอบการที่ดีและการร่วมรับผิดชอบต่อสังคม (Balanced Growth) ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) โดย S&P Global เป็นผู้จัดทำการประเมินและพิจารณาให้คะแนนความยั่งยืนขององค์กร (Corporate Sustainability Assessment) โดยมีบริษัทที่ได้รับการประเมินมากกว่า 7,500 บริษัท จาก 61 อุตสาหกรรมทั่วโลก"

"ทำเนียบ The Sustainability Yearbook นี้ มีการเปิดเผยข้อมูลและบทความที่ช่วยให้เกิดการคิดใหม่ทำใหม่ในด้านการลงทุนที่คำนึงถึงความยั่งยืน รวมถึงการใช้ ESG เป็นเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงหรือบริหารจัดการความยั่งยืนขององค์กร ครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยองค์กรที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในทำเนียบ The Sustainability Yearbook จะต้องมีผลคะแนนความยั่งยืนอยู่ในอันดับ 15% แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ๆ และอยู่ในช่วง 30% ของบริษัทที่มีผลการดำเนินงานเป็นเลิศของกลุ่มอุตสาหกรรมด้วย"

1688
ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด [pr] ล่าสุดดิ่งกว่า 300 จุด จับตายูเครน,แนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในยูเครน และแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,432.47 จุด ลบ 305.59 จุด หรือ 0.88%

ทำเนียบเครมลินเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้อนุมัติในหลักการต่อแนวทางการตอบสนองของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียต่อคำตอบจากสหรัฐและชาติตะวันตกเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียก่อนหน้านี้

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวต่อปธน.ปูตินในวันนี้ว่า รัสเซียควรดำเนินการเจรจากับสหรัฐและชาติตะวันตกต่อไปเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

นอกจากนี้ นายลาฟรอฟกล่าวว่า รัสเซียยังคงมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงกับชาติตะวันตก

คำกล่าวของนายลาฟรอฟเป็นการส่งสัญญาณว่ารัสเซียจะยังคงใช้แนวทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ยูเครน แม้สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ

ทั้งนี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต

นายลาฟรอฟกล่าวว่า รัสเซียควรเจรจาต่อไป แม้ว่าสหรัฐและนาโตได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย แต่สหรัฐก็ได้เสนอที่จะจำกัดการติดตั้งขีปนาวุธในยุโรป และลดขนาดการซ้อมรบ รวมทั้งยื่นข้อเสนออื่นๆต่อรัสเซีย

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 55% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. รวมทั้งให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิ.ย.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ได้อีกมาก" โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี

โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้เช่นกัน โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25%

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกานับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้

ส่วนเอชเอสบีซีคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 4 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.50-1.75% ในปลายปีนี้

ทางด้านดอยซ์แบงก์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 5 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 1.75% ในปีนี้

1689
จำหน่าย จักรยานออกกำลังกาย และ จักรยานฟิตเนส

จักรยานออกกำลังกาย มีทั้งที่แบบใช้ในฟิตเนสและในบ้าน ใช้สำหรับการคาดิโอและการบริหารกล้ามเนื้อส่วนขา เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ถูกผลิตด้วยวัสดุเกรดอย่างดี

สนใจสอบถามข้อมูล ทางนี้เลย
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย [pr]
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 [pr] 

1690
บอนด์ยีลด์สหรัฐ [pr]พุ่งทะลุ 2% หลังประธานเฟดเซนต์หลุยส์หนุนเร่งขึ้นดอกเบี้ย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นทะลุ 2% ในวันนี้ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น

ณ เวลา 00.28 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.021% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.319%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

นายบูลลาร์ดกล่าวว่า "ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมากกว่าคาด ความน่าเชื่อถือของเรากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเราต้องดำเนินการหลังมีข้อมูลเข้ามา แต่เราต้องทำอย่างระมัดระวังโดยไม่ให้กระทบต่อตลาด"

ก่อนหน้านี้ นายบูลลาร์ดสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ภายในเดือนก.ค.

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 55% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. รวมทั้งให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิ.ย.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ได้อีกมาก" โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี

โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้เช่นกัน โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25%

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกานับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้

ส่วนเอชเอสบีซีคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 4 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.50-1.75% ในปลายปีนี้

ทางด้านดอยซ์แบงก์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 5 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 1.75% ในปีนี้

1691
ผู้นำแคนาดาประกาศกฎหมายฉุกเฉิน [pr]เพื่อยุติม็อบรถบรรทุก

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันจันทร์ (14 ก.พ.) เพื่อสนับสนุนรัฐต่าง ๆ ในการสลายการชุมนุม หลังจากที่มีการใช้รถบรรทุกปิดกั้นถนนเพื่อประท้วงต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยถ้อยแถลงของนายกฯทรูโดว่า เขาได้ประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉิน (Emergencies Act) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติแคนาดา เพื่อให้อำนาจพิเศษเป็นการชั่วคราวกับรัฐบาลกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาการปิดกั้นถนนด้วยรถบรรทุก และระบุเสริมว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เล็งเป้าไปยังพื้นที่ที่มีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งประเทศ

นายกฯทรูโดระบุว่า กฎหมายดังกล่าวจะนำมาใช้ในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น พรมแดนและสนามบิน จากการปิดกั้นเส้นทางสัญจรและรัฐบาลสามารถสั่งการให้กองกำกับการตำรวจม้าของแคนาดาสามารถบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น โดยไม่ต้องอาศัยกองทัพ

นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังรวมถึงการให้อำนาจธนาคารในการอายัดบัญชีของผู้สนับสนุนการปิดกั้นถนนโดยไม่ต้องใช้คำสั่งศาล และบังคับให้แพลตฟอร์มระดมทุนและคริปโทเคอร์เรนซีปฏิบัติตามกฎหมายการต่อต้านการฟอกเงินและการระดมทุนให้กับกลุ่มก่อการร้าย

นางคริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแคนาดาเปิดเผยว่า บริษัทเจ้าของรถบรรทุกที่เกี่ยวข้องกับการปิดกั้นถนนแบบผิดกฎหมายจะถูกธนาคารอายัดบัญชีและถูกระงับการประกันภัย

กฎหมายฉุกเฉิน ซึ่งตราขึ้นแทนที่กฎหมายมาตรการสงคราม (War Measures Act) ในช่วงทศวรรษ 1980 จะให้อำนาจพิเศษในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่กระทบต่อสวัสดิภาพของสาธารณชน (ภัยธรรมชาติและโรคระบาด), ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสาธารณชน (การก่อความไม่สงบ) และภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศหรือภาวะฉุกเฉินทางสงคราม

1692
ตลท.เตือนพิจารณาข้อมูลรอบคอบ-ระมัดระวังก่อนเข้าซื้อขายหุ้นเหมืองคริปโท [pr]

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลท.พบหลักทรัพย์ที่มีสารสนเทศเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง กล่าวคือ ราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (%Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง แม้บริษัทจดทะเบียนจะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มิได้มีสารสนเทศ หรือพัฒนาการที่สำคัญเพิ่มเติมจากที่เคยแจ้งมาแล้ว ตัวอย่างเช่น หลักทรัพย์บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ราคาเพิ่มขึ้น 89% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,970 ล้านบาท/วัน %Daily Average Turnover Ratio อยู่ที่ 44%

นอกจากนั้นหลักทรัพย์ บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) ราคาเพิ่มขึ้น 27% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 363 ล้านบาท/วัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น JTS ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้

สำหรับการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้ (14 ก.พ. 65) ตลท.ยังคงพบการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นของราคา มูลค่าการซื้อขายในอีกหลายหลักทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) ได้แก่ หลักทรัพย์ ZIGA (ราคาขึ้นไปที่ Ceiling และไม่มีเหลือคำเสนอขาย (offer) ที่ตั้งรอ มูลค่าซื้อขาย 1,850 ล้านบาท), หลักทรัพย์บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) (ราคาเพิ่มขึ้น 23.91% มูลค่าซื้อขาย 1,064 ล้านบาท)

หลักทรัพย์ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) (ราคาเพิ่มขึ้น 20.00% มูลค่าซื้อขาย 783 ล้านบาท) และหลักทรัพย์บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) (ราคาเพิ่มขึ้น 12.90% มูลค่าซื้อขาย 487 ล้านบาท) เป็นต้น ในขณะที่ SET และ mai Index ปรับตัวลดลง 0.77% และ 0.94% ตามลำดับ

ตลท.จึงขอเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย โดยขอให้ศึกษาข้อเท็จจริง และความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อขาย นอกจากนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

1693
ศัลยกรรมตกแต่งแคมเล็ก"AESTHETIC SURGERY EVOLUTION ART NATURAL"
อาเซียนบิวตี้คลีนิค  ศัลยกรรมตกแต่งแคมเล็ก
อาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความงดงาม  ศัลยกรรมตกแต่งแคมเล็ก [pr]
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวย
แบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายตีน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  ศัลยกรรมตกแต่งแคมเล็ก
แล้วก็ ทีมงานมืออาชีพ 
อีกทั้งไทยและก็ต่างแดน ศัลยกรรมตกแต่งแคมเล็ก
 

1694
เสริมสวย สุขภาพ / ทําจิมิสีชมพู
« เมื่อ: 16 2022-02-16 2022 07:%i:1644973018 »
ทําจิมิสีชมพู"AESTHETIC SURGERY EVOLUTION ART NATURAL"
อาเซียนบิวตี้คลีนิค  ทําจิมิสีชมพู
อาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวยสดงดงาม  ทําจิมิสีชมพู
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยสดงดงาม
แบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้า โดยแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญ  ทําจิมิสีชมพู [pr]
รวมทั้ง ทีมงานมือโปร 
อีกทั้งไทยรวมทั้งต่างถิ่น ทําจิมิสีชมพู
 

1695
ZIGA พุ่ง 17.39% หลัง "สมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์" ซื้อ 12.35% ที่ 7.15 บ./หุ้น

ราคาหุ้น ZIGA พุ่ง 17.39% หรือเพิ่มขึ้น 1.60 บาท มาที่ 10.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 440.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.01 น. จากราคาเปิด 10.50 บาท ราคาสูงสุด [pr] 11.30 บาท ราคาต่ำสุด 10.30 บาท

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) โดย นายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ราคาซื้อขายในราคา 7.15 บาท/หุ้น ในวันที่ 10 ก.พ.65 ผ่าน บล.เกียรตินาคินภัทร

จีนกำหนดอัตราค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้นวันนี้ที่ 6.3664 หยวนต่อดอลลาร์


China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้แข็งค่าขึ้น 0.0017 หยวน แตะที่ 6.3664 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดอินเตอร์แบงก์จะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

หน้า: 1 ... 111 112 [113] 114