แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Naprapats

หน้า: 1 ... 444 445 [446] 447 448 ... 455
6676
อื่นๆ / กาแฟม้าขาว TV แท้100%
« เมื่อ: 06 2022-03-06 2022 16:%i:1646557580 »
เพื่อสุขภาพคุณชาย ทานแล้วแฟนชอบ มั่นใจได้ ยอดขายดีอันดับ1

6677
ทำสติกเกอร์ไลน์กับแชทสติ๊ค ไม่เพียงแค่จัดจำหน่ายบนไลน์เท่านั้น แต่เรายังนำส่งไปวางจำหน่ายบนระบบ ChatStick Market [pr] ซึ่งจะทำให้สติกเกอร์ของท่านใช้ได้ทุกแอพ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, WeChat, KakaoTalk, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้
โดยไม่มีค่าบริการใดๆ เพิ่มเติม ฟรี!! [pr]

6678
ภาวะตลาดทองแดง [pr]นิวยอร์กทองแดงปิดบวก 1.5% ดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อ

สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 มี.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 6.9 เซนต์ หรือ +1.5% ปิดที่ 4.6655 ดอลลาร์/ปอนด์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 97.3850 เมื่อคืนนี้

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้มีการพิจารณาทบทวนสิทธิของรัสเซียในการเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)

ทางด้านสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (UN) มีมติเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนโดยทันที โดยมติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ

6679
สนง.พาณิชย์เจ้อเจียงนำทัพผู้ผลิตเจรจาผู้ประกอบการไทย คาดสร้างรายได้ [pr] 5 ล้านดอลล์

สำนักงานพาณิชย์แห่งมณฑลเจ้อเจียง สนับสนุนการจัดงาน 2022 Zhejiang Export Online-Thailand Hardware & Electromachanical Products Session โดย Samexpo Exhibition & Convention Holdings ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจออนไลน์ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึง 4 มีนาคม และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำจากมณฑลเจ้อเจียงและผู้ประกอบการไทยที่ต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ท่ามกลางวิกฤติการโควิด คาดผลจากการจัดงานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจออนไลน์ในครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นางจ้วง จิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายการค้าและการบริการ สนง. พาณิชย์เจ้อเจียง กล่าวว่า การจัดงาน 2022 Zhejiang Export Online-Thailand Hardware & Electromachanical Products Session จะเป็นสะพานที่ดีในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างผู้ผลิตเจ้อเจียงและผู้ประกอบการไทย อันจะนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย

การจัดงานดังกล่าวเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือช่างและเครื่องกลไฟฟ้าของมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ทำธุรกิจการค้าได้อย่างราบรื่นท่ามกลางข้อจำกัดภายใต้สถานการณ์โควิดทีเกิดขึ้นทั่วโลก การจัดกิจกรรมการแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจออนไลน์ครั้งนี้จัดขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม Zoom ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตชั้นนำจากมณฑลเจ้อเจียงสามารถขยายตลาดและหาพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยได้ โดยไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และการเดินทาง

ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ผลิตเครื่องมือช่างและเครื่องกลไฟฟ้าของเจ้อเจียงให้ความสนใจกับการขยายตลาดสู่ประเทศไทย ซึ่งยังมีศักยภาพและความต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพดี เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม การเจรจาธุรกิจแบบตัว-ต่อ-ตัวผ่าน Zoom ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี จะช่วยให้ผลการเจรจาธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากการเจรจาธุรกิจแบบดั้งเดิม

6680
สายฮิปห้ามพลาด...ทรูสเปซ X อิส อราวนด์ ครีเอท Tumbler + Totebag สุดพรีเมี่ยม [pr] เอ็กซ์คลูซีฟ เพียงสมัครสมาชิกทรูสเปซ รับฟรีตลอดมี.ค.นี้

มากกว่าพื้นที่การใช้งานโคเวิร์คกิ้งสเปซ?ทรูสเปซ ควงคู่ Ease Around ดีไซเนอร์สุดฮิตในกลุ่มวัยทีน ออกแบบสินค้าพรีเมี่ยม กระบอกน้ำ Tumbler และกระเป๋า Totebag ฟรีเฉพาะลูกค้าทรูสเปซ ให้ได้เลือกสะสม เพียงสมัครสมาชิกรายปี ทั้งประเภท Basic หรือ Boss พร้อมรับส่วนลดค่าสมาชิก 20% พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าทรู สามารถนำทรูพอยท์มาแลกเป็นส่วนลดเพิ่มสูงสุด 200 - 400 บาท สุดคุ้มทุกการใช้งานในตามสไตล์ที่ใช่ได้ตลอดเดือนมีนาคม 2565

น้องๆ นักศึกษา หรือผู้สนใจ อยากเป็นเจ้าของกระบอกน้ำ Tumbler ไว้ดื่มตอนหยุดพักเหนื่อย และกระเป๋าผ้าไซส์เหมาะบรรจุความขยัน ที่ไม่ซ้ำใคร เพียง

สมัครสมาชิกประเภท Basic

รับส่วนลด 20% จาก 1,200 บาท เหลือเพียง 1,080 บาท
รับฟรี กระบอกน้ำ Tumbler จากคอลเลกชัน Ease Around มี 4 สีให้เลือก ( Ivory / Black / Gray / Cherry) มูลค่า 899 บาท
ลูกค้าทรู ใช้ 99 พอยท์ เหลือเพียง 880 บาท หรือใช้ 199 พอยท์ เหลือเพียง 680 บาท
หรือสมัครสมาชิกประเภท Boss

รับส่วนลด 20% จาก 2,000 บาท เหลือเพียง 1,800 บาท
รับฟรี กระบอกน้ำ Tumbler และ กระเป๋า Totebag จากคอลเลกชัน Ease Around รวมมูลค่า 1,798 บาท
ลูกค้าทรู ใช้ 99 พอยท์ เหลือเพียง 1,600 บาท หรือใช้ 199 พอยท์ เหลือเพียง 1,400 บาท
นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกทรูสเปซอยู่แล้ว สามารถหาซื้อสินค้าพรีเมี่ยม กระบอกน้ำ Tumbler มูลค่า 899 บาท และกระเป๋าผ้า Totebag มูลค่า 899 บาท ในราคาพิเศษเพียง 720 บาทได้ที่ทรูสเปซ ทุกสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ทรูสเปซ ทั้ง 8 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ สาขาเซ็นเตอร์พอยต์ ออฟ สยามสแควร์ สาขาสยาม สแควร์ ซอย 2 สาขาไอคอนสยาม สาขาเสริมไทยคอมเพลกซ์ จ.มหาสารคาม สาขามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา สาขามหาวิทยาลัยรังสิต สาขาอโศก และสาขาอุบลราชธานี Y-Square ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และเพื่อความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของสมาชิกและผู้เข้าใช้บริการตามประกาศของ ศบค.ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทรูสเปซ ได้ดำเนินงานตาม 8 มาตรการอย่างเคร่งครัด ให้เจ้าหน้าที่สวมใส่ Face Shield และหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน ตรวจวัดอุณหภูมิทั้งพนักงาน และลูกค้าก่อนเข้าใช้พื้นที่ ให้ลูกค้าบันทึกข้อมูลก่อนเข้าใช้งาน จัดวางเจล แอลกอฮอลล์ไว้ทุกสาขา ทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์หลังการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ มีการจัดวางพื้นที่กว้างขวาง และแบ่งเป็นสัดส่วนแบบรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม เพราะทรูสเปซคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของสมาชิกทุกท่านอย่างสูงสุด 

6681
พาณิชย์ เผยปี 64 ไทยใช้สิทธิ GSP โต 28% ส่งออกไปสหรัฐฯ ฉลุย [pr]

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ทั้ง 4 ระบบที่ไทยได้รับสิทธิพิเศษอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ ปี 64 มีมูลค่า 3,612.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 28.14% เมื่อเทียบกับปี 63 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 61.94% โดยไทยยังคงใช้สิทธิฯ ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 31.65% และใช้สิทธิฯ ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชเพิ่มขึ้น 25.27% ในขณะที่การใช้สิทธิฯ ส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ลดลง 2.01% และ 16.12% ตามลำดับ

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกของไทยมีการขอใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วน 91.82% ของการส่งออกโดยใช้สิทธิ GSP ทั้ง 4 ระบบของไทยในปี 2564 มีมูลค่าส่งออกโดยใช้สิทธิฯ สูงถึง 3,317.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีสินค้าส่งออกที่สำคัญครองอันดับ 1 ต่อเนื่องตลอดปี 2564 คือ ถุงมือยาง ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 505.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 45.83% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยการขอใช้สิทธิ GSP ในสินค้าถุงมือยางจะทำให้ได้รับการลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากเดิม (MFN rate) 3% ลดเหลือ 0%

ส่วนสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงและขยายตัวดี อันดับ 2 คือ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 288.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 44.27% อันดับ 3 คือ กรดมะนาวหรือกรดซิทริก มูลค่าการใช้สิทธิฯ 133.40 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 89.21% อันดับ 4 คือ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ มูลค่าการใช้สิทธิฯ 90.71 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 37.03% และอันดับ 5 คือ หลอดหรือท่อทำด้วยทองแดงบริสุทธิ์ มูลค่าการใช้สิทธิฯ 89.99 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 202.45%

สำหรับตลาดส่งออกภายใต้ระบบ GSP อันดับรองลงมา ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ มีมูลค่าการส่งออกโดยใช้สิทธิ GSP และสินค้าส่งออกสำคัญ ดังนี้ สวิตเซอร์แลนด์ (มูลค่า 259.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และขยายตัวได้ดี อาทิ ผ้าร่อน (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 10.22 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 6.38%) รถยนต์และยานยนต์อื่นๆ ที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 8.46 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 30.43%) ตัวเรือนนาฬิกาชนิดวอตช์และส่วนประกอบของตัวเรือนดังกล่าวทำด้วยโลหะสามัญ (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 8.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 136.79%) สายนาฬิกาของนาฬิกาชนิดวอตช์ และส่วนประกอบของสายนาฬิกาดังกล่าว (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 7.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 86.87%) เป็นต้น

กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (มูลค่า 20.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และขยายตัวได้ดี อยู่ในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารเป็นหลัก อาทิ สับปะรดกระป๋อง (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 10.09 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 65.86%) พืช/ผลไม้ปรุงแต่ง (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 8.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 35.98%) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโต (ชนิดซาร์ดา) (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.45 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 34.69%) น้ำผลไม้/น้ำผักอื่นๆ (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.19 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 56.94%) ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอส (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 82.41%) เป็นต้น

นอร์เวย์ (มูลค่า 15.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และขยายตัวได้ดี อาทิ ข้าวโพดหวาน (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 3.83 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 31.83%) ถุงมือที่อาบซึม เคลือบ หุ้มหรืออัดเป็นชั้นด้วยพลาสติกหรือยาง (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 31.36%) พาสต้ายัดไส้ (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.52 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 197.94%) พืชผักอื่นๆ ที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.46 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.62%) เครื่องแต่งกายของบุรุษและเด็กชายทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (มูลค่าการใช้สิทธิฯ 0.21 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 24.76%) เป็นต้น

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการต่ออายุโครงการ GSP ของสหรัฐฯ ที่สิ้นสุดโครงการฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ขณะนี้ รัฐสภาสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่ออายุโครงการฯ โดยคาดว่าจะได้รับการผ่านความเห็นชอบในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในการต่ออายุโครงการ GSP ครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการพิจารณาประเทศที่จะได้รับสิทธิ GSP ให้สะท้อนกับประเด็นที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ อาทิ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ด้านแรงงาน เป็นต้น ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

6682
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แอปเปิ้ลออกมายืนยันแล้วว่าได้หยุดการจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ทั้งหมดของรัสเซีย ตามการร้องขอของรองนายกรัฐมนตรียูเครน Mykhailo Fedorov โดยจดหมายจากซีอีโอ ทิม คุก ระบุว่า Fedorov ขอให้บริษัทหยุดการจำหน่ายอุปกรณ์และบล็อก App Store. [pr] ในรัสเซียFedorov เขียนจดหมายร้องขอไว้ว่า “เราขอร้องคุณ และมั่นใจว่าคุณจะไม่แค่รับฟังเฉยๆ แต่จะร่วมมือทำทุกอย่างเพื่อช่วยปกป้องประชาชนชาวยูเครน คนยุโรป และที่สำคัญที่สุดคือ โลกประชาธิปไตยทั้งหมด จากความก้าวร้าวบ้าเลือดในการรุกรานดินแดน”“ตั้งแต่การหยุดให้บริการและจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ลในรัสเซีย ที่รวมถึงการบล็อกการเข้าถึง App Store ด้วย เราเชื่อว่าการดำเนินการเหล่านี้จะกระตุ้นให้วัยรุ่น และประชาชนในรัสเซียออกมาเคลื่อนไหวให้ยุติกิจกรรมทางทหารของประเทศตัวเองที่น่าอับอายอยู่ตอนนี้”ปัจจุบัน ถ้ากดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลผ่านออนไลน์ในรัสเซีย จะขึ้นข้อความว่า “ไม่สามารถจัดส่งได้” นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังหยุดส่งออกทุกอย่างไปยังรัสเซีย ปิดการอัพเดทการจราจรและเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ในยูเครนผ่าน Apple Maps เพื่อให้คนยูเครนปลอดภัยมากที่สุด

อ่านต่อ MyMainer.com [pr]

6683
ราคาน้ำมัน WTI [pr]พุ่งเหนือ $111 ทำนิวไฮ 11 ปี ท่ามกลางวิกฤตยูเครน

ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยสัญญาล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 111 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งเหนือ 111 ดอลลาร์เช่นกัน ก่อนที่ราคาน้ำมัน WTI และเบรนท์จะชะลอตัวในเวลาต่อมา

ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกพลังงานไปสู่ตลาด นอกจากนี้ ราคาน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.5% สู่ระดับ 109.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดีดตัวแตะระดับ 111.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 5.84% สู่ระดับ 111.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดีดตัวแตะระดับ 111.78 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2556

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐเปิดกว้างที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่ก็จะพิจารณาถึงผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาพลังงานในสหรัฐก่อนที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว

"เรากำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว โดยเราได้วางทางเลือกนี้อยู่บนโต๊ะแล้ว แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น"
แคนาดาประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่วนสหรัฐและชาติตะวันตกประกาศตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ขณะที่สหรัฐประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย

ทางด้าน IEA มีมติระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

IEA จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้เพื่อหารือถึงแนวทางในการสกัดราคาน้ำมัน หลังพุ่งขึ้นทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 30 ประเทศ โดยสหรัฐจะระบายน้ำมันราว 30 ล้านบาร์เรลจากจำนวนทั้งหมด 60 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนเม.ย.

แหล่งข่าวคาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่จะเปิดเผยในวันนี้

6684
ร้อยไหมคริสตัลอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความ
งาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง แล้วก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อม
การดูแลความสวยสดงดงาม
ร้อยไหมคริสตัลแบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
โดยหมอผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ  
รวมทั้ง ทีมงานมือโปร 
ร้อยไหมคริสตัล [pr]ทั้งไทยแล้วก็ต่างถิ่น 


https://bit.ly/3II7mCu [pr]

6685
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง [pr]ฮั่งเส็งปิดบวก 123.42 จุด ขานรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่าคาด

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล

ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 22,467.34 จุด เพิ่มขึ้น 123.42 จุด หรือ +0.55%

ทั้งนี้ นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.

6686
ASIMAR ปี 65 ปรับแผนสู้ COVID รายได้โต 10% ลุยประมูลงานใหม่เสริมแกร่ง [pr] ด้านบอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.10 บ./หุ้น

เอเชียน มารีนฯ (ASIMAR) ฟอร์มยังเฉียบ ปรับเกมธุรกิจสู้โควิด ปิดงบปี 64 รายได้โตขึ้นเกือบ 7% ด้านซีอีโอ "สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์" เปิดสตอรี่ปีเสือทอง พร้อมควบ 40 ปีก่อตั้งบริษัทฯ เตรียมรับทรัพย์คว้างานใหม่จากงานประมูลของภาครัฐ ดัน Backlog ในมือพุ่ง จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 240 ลบ. แย้ม อยู่ระหว่างรอปิดดีลงานภาครัฐและเอกชนเพิ่ม วางเป้าปี 65 รายได้โต 10 % ด้านบอร์ดฯ ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.10 บ./หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 65 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 นี้

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ผู้ประกอบธุรกิจซ่อมเรือและต่อเรือ รวมถึงกิจการก่อสร้างงานด้านวิศวกรรมอื่น ๆ เช่น งานโครงสร้างเหล็ก เป็นต้น เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท โต 7% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากงานซ่อมเรือ 371 ล้านบาท และรายได้จากงานต่อเรือและจัดหาเรือ 136 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 21 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท จากผลกระทบสถานการณ์ COVID ช่วงไตรมาส 3/64 ลูกค้าเลื่อนเข้าซ่อมและขาดกำลังพล โดยที่กลับมารับงานได้ตามปกติในช่วงปลายปี

"แม้ในปีที่ผ่านมา เอเชียน มารีนฯ ยังเจอความท้าทายในหลายปัจจัย แต่ด้วยกลยุทธ์ และแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างรัดกุม ส่งผลให้ผลงานปี 64 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาจจะมีสะดุดในช่วงไตรมาส 3/64 เหตุจากสถานการณ์โควิดที่รุนแรงในโซนพื้นที่จ.สมุทรปราการ ทำให้ลูกค้าที่จะนำเรือมาซ่อมต้องชะลอดูสถานการณ์ เนื่องจาก ลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มเรือบรรทุกสินค้า ถ้ามีลูกเรือติดโควิดแม้แต่คนเดียว ต้องถูกกักตัวทั้งลำ ไม่สามารถส่งสินค้าได้ แต่ในช่วงไตรมาส 4/64 สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากเดิมที่ลูกค้ามีการชะลอการซ่อมเรือ และงานต่อเรือ ก็กลับมาส่งงานให้ตามปกติ ทำให้ผลงานยังคงเป็นไปตามเป้า และสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนด" นายสุรเดชกล่าว

อีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทคือ เรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องด้วยมาตรการภาครัฐที่ไม่สามารถนำแรงงานเข้ามาทำงานในประเทศได้ จึงปรับแผนรับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาทดแทนก่อน แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงาน เปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศได้แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ก.พ. 65) ทางบริษัทจึงเร่งหาแรงงานเพิ่มเติม เพื่อรองรับงานในอนาคต และคาดสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป

สำหรับปี 65 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10 % จากปีก่อน จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 245 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด และการเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน

"แผนธุรกิจของ ASIMAR ในปีเสือทอง และปีนี้ครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้งบริษัท ทีมบริหารยังคงมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ โดยแผนปี 65 นี้ ยังคงเดินหน้าเร่งประมูลงานใหม่ และในช่วงไตรมาส 1/65 นี้ ได้ยื่นประมูลงานกับทางภาครัฐ โดยเป็นงานต่อเรือ คาดทยอยประกาศผลงานภายในไตรมาส 2/65 นี้ ส่วนงานเอกชน อยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติม เป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว คาดทราบผลชัดเจนภายในไตรมาส 2-3/65 และมองว่าโอกาสอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของธุรกิจการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการต่อเนื่องไม่มีหยุด" นายสุรเดชกล่าว

ทั้งนี้เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นและตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินรวม 25.83 ล้านบาท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 8 เมษายน 2565 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2565

6687
'ซิตี้กรุ๊ป' เชียร์นักลงทุน [pr]ซื้อหุ้น ชูสถิติบ่งชี้หุ้นขึ้นหลังร่วงจากข่าวสงคราม
 
ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นสหรัฐ เนื่องจากสถิติบ่งชี้ว่าราคาหุ้นมักดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงจากเหตุการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์

ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต บัคแลนด์ หัวหน้านักวิเคราะห์หุ้นของซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครน จะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย และหุ้นสถาบันการเงินบางแห่งเท่านั้น

'เรายังคงต้องการซื้อหุ้นเมื่อราคาดิ่งลง ขณะที่หุ้นในตลาดโลกมักดีดตัวขึ้น 10-20% หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์หลายครั้งที่ผ่านมา' รายงานระบุ
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับโลก ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในขณะนี้ หลังเกิดวิกฤตการณ์ในยูเครน

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของนายอีเลม เซนยุซ นักกลยุทธ์ด้านมหภาคของบริษัท Truist ที่ได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นในขณะนี้ เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นมักดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงจากเหตุการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เว้นแต่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

นายเซนยุซระบุว่า ความเสี่ยงในระยะใกล้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่แนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในขณะนี้

'แม้ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่สถิติบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ที่เป็นวิกฤตการณ์ทางทหารมีแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดเกิดความผันผวน และมักทำให้ตลาดปรับตัวลงในระยะสั้น แต่ตลาดหุ้นก็มักจะดีดตัวขึ้นมาได้ในที่สุด นอกจากว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย' รายงานระบุ
รายงานยังระบุว่า ราคาพลังงานและสินค้าเกษตรที่พุ่งขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจยุโรป แต่สหรัฐจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าในอดีต เนื่องจากมีแหล่งพลังงานภายในประเทศ ดังนั้นบริษัท Truist จึงยังคงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐมากกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ

นอกจากนี้ นายเซนยุซเปิดเผยว่า จากการติดตามผลสำรวจความเชื่อมั่นของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า ความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ มักตามมาด้วยการดีดตัวขึ้นของดัชนี S&P 500 มากกว่า 90% ของช่วงเวลาในระยะ 3-12 เดือนข้างหน้า

6688
BANPU-BPP เข้าลงทุนธุรกิจโซลาร์รูฟ [pr]ในเวียดนาม 466 ลบ.เพิ่มพอร์ตพลังงานสะอาด

บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัท BRE Singapore Pte. Ltd. (BRES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (BANPU และ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ถือหุ้นฝ่ายละ 50%) ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (SSA) เพื่อเข้าถือหุ้นจำนวน 49.04% ในบริษัท Solar Esco Joint Stock ในเวียดนาม มูลค่าการลงทุน 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 466 ล้านบาท คาดว่าจะทำรายการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/65

Solar Esco Joint Stock เป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศเวียดนาม โดยให้บริการในการวางแผนพัฒนา ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และให้บริการด้านวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้าง (Engineering Procurement and Construction หรือ EPC) รวมทั้งให้บริการบำรุงรักษา ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่าสิบปีกับคู่ค้าทางธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งศูนย์การค้า, โรงงานอุตสาหกรรม และโกดังสินค้า โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20.4 เมกะวัตต์และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 106 เมกะวัตต์

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU เปิดเผยว่า การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมอัตราเร่งเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่จะมี EBITDA มากกว่า 50% จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานภายในปี 68

"ตลอดช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา บ้านปูได้เข้าลงทุนพอร์ตพลังงานสะอาดในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังการผลิตรวม 218 เมกะวัตต์ สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขยายขอบข่ายพอร์ตพลังงานสะอาดของเราสู่ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในเวียดนามเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจร ส่งผลให้เกิดการประสานพลังระหว่างบ้านปู และ Solar Esco เพื่อส่งเสริมจุดแข็งและต่อยอดธุรกิจซึ่งกันและกัน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญระหว่างกัน ซึ่งเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ Greener & Smarter และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศด้านพลังงานของบ้านปู (Banpu Ecosystem) ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที"
การเข้าถือหุ้นใน Solar Esco ด้วยมูลค่าการลงทุน 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 466 ล้านบาท) ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและขยายแพลต์ฟอร์มพลังงานฉลาดของบ้านปู เพื่อเสริมสร้างธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในการขยายตลาดและฐานลูกค้าในต่างประเทศ นอกจากนั้น การสร้างพันธมิตรในครั้งนี้ยังส่งผลให้ดีต่อโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอนาคต เช่น การผลิตแผงโซลาร์ ระบบไมโครกริดบนเกาะ กังหันลมขนาดเล็ก และโซลูชันสมาร์ทโฮม เป็นต้น

"การขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่เราดำเนินการควบคู่ไปกับแผนการสร้าง New S-Curve ทั้งการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจของบ้านปู เน็กซ์ และการลงทุนในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานใหม่ ๆ เพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจของบ้านปู (Banpu Transformation) โดยมุ่งเน้นโอกาสการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ และสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานมากกว่า 50% ในปี 68 ตอกย้ำจุดยืนที่ต้องการส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน" นางสมฤดี กล่าว

6689
ตลาดหุ้นไทย [pr]: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาคหลังรัสเซียโจมตียูเครนรุนแรงขึ้น

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนที่มีความรุนแรงมากขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. รวมทั้งปรับลดขนาดของงบดุลภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กดดัน Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
ให้แนวรับที่ 1,670-1,680 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด

ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวหลังมีข่าวรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่ชื่อ Zaporizhzhia ขนาด 950 MW ของยูเครนเช้าวันนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงทันที่ 2-3% จึงคาดว่าตลาดไทยน่าจะได้รับผลกระทบนี้ด้วย แม้คืนที่ผ่านมาจะมีข่าวว่าสองฝ่ายมีการเจรจารอบสองไปแล้วก็ตาม โดยข่าวเกี่ยวกับยูเครนในเวลานี้ยังมีผลให้ตลาดหุ้นผันผวนสูง คือพร้อมขึ้นและลงได้ตลอดเวลา

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,794.66 จุด ลดลง 96.69 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,363.49 จุด ลดลง 23.05 จุด หรือ -0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,537.94 จุด ลดลง 214.08 จุด หรือ -1.56%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด ลดลง 155.42 จุด หรือ -0.58%, ตลาดหุ้นจีน ลดลง 21.13 จุด หรือ -0.61% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 588.21 จุด หรือ -2.62%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 มี.ค.) ที่ระดับ 1,696.08 จุด เพิ่มขึ้น 6.27 จุด, +0.37%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,892.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 มี.ค.) ลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มี.ค.) อยู่ที่ 3.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 32.72 อ่อนค่าตามภูมิภาค วิตกวิกฤตยูเครน จับตา Flow-ตัวเลขศก.สหรัฐคืนนี้
นายกฯ หารือทีมเศรษฐกิจแก้ปัญหาค่าครองชีพหลังราคาน้ำมันพุ่ง สั่ง "คลัง-พลังงาน" เร่งมาตรการช่วยผู้ใช้เบนซิน เน้นกลุ่มเปราะบาง จักรยานยนต์รับจ้าง เล็งจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ มอบ "สุพัฒนพงษ์" หารือสมาคมธนาคาร-แบงก์รัฐแก้หนี้ประชาชน ห่วงปมโควิด-น้ำมันแพงเพิ่มปัญหาหนี้ "หอการค้า" ห่วงน้ำมันดิบขึ้นไปแตะ 120 ดอลลาร์ ส.อ.ท.ชี้ผู้ผลิตแบกต้นทุนเพิ่ม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้พิจารณาโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ไม่ว่าจะเพิ่มวงเงินหรือขยายระยะเวลา เนื่องจากโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ยังคงดำเนินการอยู่ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.65 ฉะนั้นยังมีเวลาพิจารณารายละเอียดโครงการ ถึงแม้ว่าผู้ใช้สิทธิบางราย จะใช้สิทธิครบวงเงิน 1,200 บาทแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เพิ่งเริ่มใช้สิทธิครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ภาคธนาคารพาณิชย์เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 63 สมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารสมาชิกสมาคม ได้ร่วมกันดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งการแก้หนี้เดิม เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในระยะ 1-3 มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ มาตรการแก้หนี้ระยะยาว มาตรการรวมหนี้
ยอดติดเชื้อใหม่รวมผล ATK เกินครึ่งแสน ดับพุ่ง 49 ราย ชี้พีกสุดกลาง เม.ย. 4-5 หมื่นรายต่อวัน หากหย่อนมาตรการสูงกว่านี้แน่ บี้ทุกจังหวัดเร่งฉีดกระตุ้นผู้สูงอายุก่อนเทศกาลสงกรานต์ "อนุทิน" เร่งเพิ่มคู่สายด่วน 1330 สธ.ดึง 14 รพ.ในสังกัดรอบกรุง เสริมระบบเจอ จ่าย จบ
*หุ้นเด่นวันนี้

LANNA (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท ประเมินรายได้ครึ่งปีแรกเติบโตเด่นเกินคาด ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ดันราคาถ่านหินให้ทรงตัวในระดับสูง LANNA ซึ่งมีเหมืองได้ประโยชน์มาก ติดตามการลงทุนในสัมปทานเหมืองถ่านหินใหม่ที่อินโดนีเซีย หากได้มาเพิ่มจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต ความต้องการในการใช้ถ่านหินจะเพิ่มขึ้นหลัง โรงไฟฟ้าที่ใช้แก๊ซเป็นพลังงานในโซนยุโรปขาดพลังงาน โรงไฟฟ้าถ่านหินจะถูก Run เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยพลังงานที่ขาด
TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าหมาย 8.70 บาท ระยะสั้นแนวโน้มกำไรครึ่งแรกปี 65 ยังดูดี โดยรายได้เติบโตทั้งจากธุรกิจเครื่องดื่มทั้ง 7-11 และ Non 7-11 รวมถึงธุรกิจ Character ที่ดีขึ้น ส่วนฝั่งต้นทุนยังกระทบไม่มาก ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ส่วนฝั่งต้นทุนหากครึ่งหลังปี 65 ยังไม่ผ่อนคลายอาจพิจารณาปรับขึ้นราคาขาย เรายังคาดกำไรปีนี้โตแข็งแรง +9% Y-Y
AOT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" เป้าหมาย 70.00 บาท สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 64/65 (ม.ค.-มี.ค.65) มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากรัฐกลับมาเปิดประเทศแบบ Test & Go ตั้งแต่เดือน ก.พ.65 รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นอย่างเราเที่ยวด้วยกันจะช่วยหนุนการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือ นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกหลังมีข่าว (Bloomberg) จีนเริ่มหาทางยกเลิกนโยบายซีโร่โควิด เตรียมเปิดประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวเร็วกว่าประมาณการเดิมที่ตั้งไว้

6690
ASIMAR กางแผนปีนี้ดันรายได้โต [pr] 10% จากสัญญาณงานซ่อม-ต่อเรือปลายปี 64 ฟื้น

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า แผนงานในปี 65 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ราว 245 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด และการเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน

"แผนธุรกิจของ ASIMAR ในปีเสือทอง และปีนี้ครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้งบริษัท ทีมบริหารยังคงมุ่งมั่นสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ โดยแผนปี 65 นี้ ยังคงเดินหน้าเร่งประมูลงานใหม่ และในช่วงไตรมาส 1/65 นี้ได้ยื่นประมูลงานกับทางภาครัฐ โดยเป็นงานต่อเรือ คาดทยอยประกาศผลงานภายในไตรมาส 2/65 นี้ ส่วนงานเอกชนอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติม เป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว คาดทราบผลชัดเจนภายในไตรมาส 2-3/65 และมองว่าโอกาสอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของธุรกิจการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการต่อเนื่องไม่มีหยุด" นายสุรเดช กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากงานซ่อมเรือ 371 ล้านบาท และรายได้จากงานต่อเรือและจัดหาเรือ 136 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท จากผลกระทบสถานการณ์ COVID ช่วงไตรมาส 3/64 ลูกค้าเลื่อนเข้าซ่อมและขาดกำลังพล แต่กลับมารับงานได้ตามปกติในช่วงปลายปี

"แม้ในปีที่ผ่านมา เอเชียน มารีนฯ ยังเจอความท้าทายในหลายปัจจัย แต่ด้วยกลยุทธ์ และแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างรัดกุม ส่งผลให้ผลงานปี 64 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แต่อาจจะมีสะดุดในช่วงไตรมาส 3/64 เหตุจากสถานการณ์โควิดที่รุนแรงในโซนพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ทำให้ลูกค้าที่จะนำเรือมาซ่อมต้องชะลอดูสถานการณ์ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มเรือบรรทุกสินค้า ถ้ามีลูกเรือติดโควิดแม้แต่คนเดียวก็ต้องถูกกักตัวทั้งลำ ไม่สามารถส่งสินค้าได้ แต่ในช่วงไตรมาส 4/64 สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากเดิมที่ลูกค้ามีการชะลอการซ่อมเรือ และงานต่อเรือ ก็กลับมาส่งงานให้ตามปกติ ทำให้ผลงานยังคงเป็นไปตามเป้า และสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามกำหนด" นายสุรเดชกล่าว
อีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทคือ เรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องด้วยมาตรการภาครัฐที่ไม่สามารถนำแรงงานเข้ามาทำงานในประเทศได้ จึงปรับแผนรับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาทดแทนก่อน แต่ในปัจจุบันกระทรวงแรงงาน เปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศได้แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ก.พ. 65) ทางบริษัทจึงเร่งหาแรงงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับงานในอนาคต และคาดสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป

หน้า: 1 ... 444 445 [446] 447 448 ... 455