ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องซ่อมบ้านไม่ใช่เรื่องยากหากมีสว่านไร้สาย  (อ่าน 143 ครั้ง)

kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6658
  • รับทำ SEO No.1 SEONo1.co.th
    • ดูรายละเอียด
    เครื่องมือช่างสารพัดประโยชน์ที่คุณพ่อบ้าน และคุณแม่บ้านสายช่างควรมีไว้ในครอบครองก็คือ สว่านไร้สาย [pr] หรือ สว่านแบต [pr]เตอรี่ เครื่องมืองานช่างสารพัดประโยชน์ที่ทำได้ตั้งแต่งานซ่อมแซมบ้าน ไปจนถึงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ และงาน DIY ต่างๆ วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสว่านไร้สายและวิธีเลือกซื้อกัน
 




สว่านไร้สาย ดียังไง?
    สว่านไร้สายเป็นอุปกรณ์สำหรับงานช่างที่ใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ ตัวสว่านมีขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว ใช้งานได้แม้ในที่แคบ หรือที่ที่ไม่มีปลั๊กไฟ สามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น งานเจาะทั่วไปเหล็ก/ไม้ งานประกอบ/งานยึดติด งานซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์, งานตกแต่ง, งานแผ่นไม้, งานยิปซัม, งานพลาสติก/ผ้า, งานเจาะฝ้าเพดาน เป็นต้น

วิธีเลือกสว่านไร้สาย
1. เลือกตามลักษณะการใช้งาน 
    หากคุณต้องการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ หรือใช้แทนไขควง สามารถเลือกซื้อเป็นสว่านไขควงไร้สายที่จะช่วยให้เราสามารถขันสกูรหรือขันนอตได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงเยอะ สามารถใช้เจาะพื้นผิวที่ไม่แข็งมากนักได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้งานในระดับที่ยากขึ้น เช่นมีการเจาะปูน หิน ที่ใช้เวลาไม่นาน หรือใช้งานซ่อมแซมบ้านทั่วไป แนะนำให้เลือกสว่านไร้สายธรรมดา แต่ถ้าใช้งานหนักมากขึ้นอาจะต้องเลือกเป็นสว่านโรตารีไร้สายที่สามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะกับงานหนักประเภทงานเจาะกระแทก เจาะหิน เจาะปูน แต่ราคาก็จะสูงกว่าสว่านไร้สายแบบธรรมดาค่อนข้างมาก

2. เลือกแรงบิดในการเจาะ
    แรงบิดในการเจาะ หรือ max torque ของสว่านคือตัวชี้วัดประสิทธิภาพของสว่านไร้สาย มีหน่วยเป็นนิวตันเมตร (NM) เช่น สว่าน 18v จะมีแรงบิดเริ่มที่ 60 NM ส่วนสว่าน 10.8v กับ 12v มักจะมีแรงบิด 30 NM 
    ยิ่งแรงบิดในการเจาะสูงยิ่งสามารถทำงานหนักได้ดีกว่า ดังนั้นการเลือกสว่านที่แรงบิดสูงจะสามารถใช้กับงานเจาะวัสดุได้หลายกหลายกว่า แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าเพราะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีแอมป์ที่สูงตามไปด้วย เราสามารถตรวจสอบแรงบิดได้ที่ข้างกล่อง

3. เลือกความจุไฟและแรงดันแบตเตอรี่
    ความจุของแบตเตอรี่มีหน่วยเป็นแอมป์ แสดงอยู่ด้านข้างตัวแบตเตอรี่ ซึ่งจะบอกเราว่าแบตเตอรี่ก้อนนี้สามารถจ่ายพลังงานให้กับสว่านได้นานแค่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดมอเตอร์ด้วย ยิ่งมอเตอร์ใหญ่มีกำลังสูงก็จะยิ่งใช้ไฟสูงตามไปด้วย นอกจากนี้เราควรตรวจสอบแรงดันของแบตเตอรี่ ว่ามีจำนวนโวลต์ (V) ตรงตามที่แจ้งหรือไม่ และแนะนำให้เลือกแบตเตอรี่แบบ Li-ion จะดีกว่า

4. เลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้
    สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่ชำนาญควรเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียง และมีมาตรฐาน เพราะนอกจากจะมีบริการหลังการขายแล้วยังสามารถหาอะไหล่ในการเปลี่ยนหรือซ่อมได้ง่ายกว่ายี่ห้อที่ไม่ค่อยมีผู้ใช้งาน อย่างเช่น สว่านไร้สาย makita [pr] แบรนด์เครื่องมือช่างที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและมีโรงงานผลิตอยู่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย

    หากใครที่กำลังมองหาสว่านไร้สาย แนะนำให้ลองใช้วิธีที่เราแนะนำเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อสว่านไร้สายดีๆ ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ