ผู้เขียน หัวข้อ: การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก  (อ่าน 99 ครั้ง)

Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7517
  • รับทำ SEO No.1 SEONo1.co.th
    • ดูรายละเอียด
การเยือนไทยอย่างเป็นทางการ [pr]ของเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๑๔ ? ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (Muslim World League) และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและการสร้างความเข้าใจ รวมถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม (interfaith dialogue) กับผู้นำระดับสูงของไทย นักวิชาการ นักศึกษามหาวิทยาลัย และแกนนำชุมชนมุสลิมไทย

ตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกและคณะจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-๑๙ อย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนชาวไทยโดยรวม

อธิบดีกรมสารนิเทศผลักดันการยกระดับ Soft Power ไทยในเวทีโลกในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (อนุ กตน.)
เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการ

นายกรัฐมนตรี (อนุ กตน.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เพื่อหารือการยกระดับ Soft Power ไทยในเวทีโลก โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธาน และผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า บริษัท เน็ตฟลิกซ์ (ประเทศไทย) และบริษัท ข้าวสาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นต้น

ที่ประชุมได้หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานด้าน Soft Power อย่างกว้างขวาง และเห็นพ้องต้องกันว่า ควรทำงานแบบบูรณาการ และขับเคลื่อนไป ทั้งองคาพยพ เพื่อให้เกิดการยกระดับ Soft Power ไทยในเวทีโลก โดยที่ประชุมเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะต้องมีกลไกระดับชาติ เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมและส่งออก Soft Power ไทยในภาพรวมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ